รองปธน.สหรัฐฯเดินหน้าหาเสียงกับกลุ่มคนผิวสี ช่วยปธน.ไบเดนชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2

          สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปราศรัยต่อเวทีส่งเสริมดนตรีและวัฒนธรรม เอสเซนซ์ เฟสติวัล(Essence Festival) งานประจำปีของชาวอเมริกันผิวสีในเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ขอให้กลุ่มคนผิวสีอเมริกัน ลงคะแนนให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้สมัครประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครต และเธอ ซึ่งเป็นผู้สมัครรองประธานาธิบดีในทีมของนายไบเดน เพื่อชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 พร้อมเน้นเรื่องผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศ ถ้าหากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อายุ 78 ปี ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้งและกลับเข้ามาบริหารประเทศสมัยที่ 2 ในการเลือกตั้ง 5 พ.ย.นี้ โดยนางแฮร์ริส ไม่ได้แสดงความเป็นกังวลเรื่องสุขภาพของนายไบเดน วัย 81 ปี ว่าจะมีผลกระทบต่อการทำงานการเมืองอย่างไร

         นางแฮร์ริส กล่าวว่า ประชาชนอเมริกันไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็นสถิติใหม่ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วในปี 2563 ซึ่งเป็นแนวโน้มที่สามารถเกิดขึ้นอีกครั้งในการเลือกตั้งปลายปีนี้ ซึ่งถ้ากลุ่มผิวสีอเมริกันลงคะแนนเลือกนายไบเดนในการเลือกตั้งในอีก 122 วันข้างหน้า นายไบเดนจะเอาชนะนายทรัมป์ได้อย่างแน่นอน โดยนางแฮร์ริส กล่าวว่าบางที ครั้งนี้อาจจะเป็นการเลือกตั้งสำคัญที่สุดในชั่วชีวิตของพวกเรา เธอปราศรัยต่อที่ประชุม อ้างว่านายทรัมป์ พูดชัดเจนตั้งแต่แรกว่าเขาตั้งใจจะเป็นผู้นำแบบเผด็จการตั้งแต่เริ่มเข้าบริหารประเทศวันแรก ถ้าหากเขาชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2

         ทั้งนี้ การร่วมกิจกรรมของนางแฮร์ริสในเวทีประชุมแห่งนี้ มีขึ้นในช่วงที่ทีมรณรงค์หาเสียงของนายไบเดนเร่งทำงาน เพื่อฟื้นความมั่นใจกับชาวอเมริกัน รวมถึงกลุ่มคนผิวสี ซึ่งเป็นฐานการเมืองสำคัญอีกกลุ่มหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้นายไบเดนชนะการเลือกตั้งสมัยแรกในปี 2563 จากผลเอ็กซิตโพลของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ในกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่เป็นกลุ่มคนผิวสีอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน นายไบเดนชนะนายทรัมป์ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 87 ต่อร้อยละ 12 ในการเลือกตั้งปี 2563 แต่ในระยะหลังๆนี้ นายทรัมป์เริ่มเน้นหาเสียงในกลุ่มคนผิวสีอเมริกันมากขึ้น

          ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ทำเนียบขาวพยายามจะลดหาทางลดกระแสวิจารณ์ของหลายฝ่ายในเรื่องสุขภาพ สภาพจิตใจ และความพร้อมในการรณรงค์หาเสียง หลังนายไบเดนทำผลงานได้ย่ำแย่ในการอภิปรายประชันวิสัยทัศน์ทางโทรทัศน์นัดแรกในรัฐจอร์เจียเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ก่อนหน้านี้ สส.บางคนในพรรคเดโมแครต เสนอให้นายไบเดนประเมินตนเองอย่างตรงไปตรงมาว่า พร้อมจะลงสู้ศึกเลือกตั้งสมัยที่ 2 หรือไม่ ขณะที่สส.บางคนเช่น นายลอยด์ ด็อกเก็ตต์จากรัฐเท็กซัส ไปไกลถึงขนาดเสนอแนะให้นายไบเดนถอนตัวออกจากการแข่งขันครั้งนี้ เพื่อพรรคจะได้สรรหาผู้สมัครคนใหม่แทน

          หลายฝ่ายเริ่มมองมายังนางแฮร์ริสว่า อาจจะได้รับเสนอชื่อจากพรรคเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีในนามของพรรค ถ้าหากในที่สุด นายไบเดนยอมถอนตัวจากการแข่งขันในที่สุด สอดคล้องกับผลโพลที่จัดทำโดยซีเอ็นเอ็น หลังการอภิปรายทางโทรทัศน์นัดแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแสดงว่า นางแฮร์ริส เป็นผู้สมัครที่สามารถแข่งขันนายทรัมป์อย่างสูสีในกรณีนายไบเดนถอนตัวจากการแข่งขัน แต่นักการเมืองพรรครีพับลิกัน หวังว่า พรรคเดโมแครตจะไม่เสนอชื่อนางนางแฮร์ริส เป็นผู้สมัครประธานาธิบดีแทนนายไบเดน เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่า เส้นทางสู่ทำเนียบขาวของนายทรัมป์จะราบรื่นมากกว่า ถ้าหากนายไบเดนยังคงเป็นแคนดิเดตประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครตต่อไป

#การเมืองสหรัฐ