กรณีที่ศาลนาทวี อนุมัติออกหมายจับ พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก และอดีตผู้อำนวยการรักษาความมั่นคง ภายในภาค4 ใน 3 ข้อหาที่เกี่ยวกับค้ามนุษย์ฯ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่ายังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้
ขณะที่นายอนุสิษฐ์ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า การออกหมายจับนี้ เป็นผลมาจากการขยายผลการจับกุมในพื้นที่ ซึ่งทาง สมช. ไม่ได้ข่าวมาก่อน และคาดไม่ถึงว่าผู้ทรงคุณวุฒิในกองทัพ จะดำเนินการเช่นนี้ อย่างไรก็ตามตนเองเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าหากมีการสอบสวนอย่างจริงจัง ก็จะพบกับสิ่งที่สร้างความประหลาดใจ เนื่องจากจะพบกับปัญหาเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ปัญหาการอพยพของชาวโรฮิงญานั้น นายอนุสิษฐ์ ระบุว่า เมื่อมีความพยายามลักลอบเดินทางเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย จึงส่งผลให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งจากนี้ไปแต่ละกระทรวงฯ จะต้องควบคุมดูแลบุคลากรไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้อง และเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์จะดีขึ้น เนื่องจากมีการหารือกันในหลายระดับ จนถึงองค์การสหประชาชาติ ที่จะต้องมีความร่วมมือเพื่อสร้างความเข้าใจให้ทั่วโลกรับรู้ถึงปัญหาที่แท้จริง เพื่อไม่ให้ภาระตกอยู่กับประเทศใด ประเทศหนึ่ง
ส่วนการเจรจาสันติสุข กับกลุ่มก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ ที่มีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกนั้น นายอนุสิษฐ์ ระบุว่า ไม่อยากให้มีเร่งรัดมากนัก เพราะการพูดคุยมีหลายกลุ่ม ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วนปัญหาการขโมยรถ ที่เกิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้นั้น นายอนุสิษฐ์ ขอให้ประชาชนเฝ้าระวัง ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และยืนยันว่าขณะนี้การแก้ปัญหาในพื้นที่ชายแดนใต้มีความก้าวหน้ามากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่ามีความหนักใจในการทำงาน เพราะต้องมีการจัดการมากมาย และมีระบบต่างๆ แต่เชื่อว่าการรื้อระบบและการทำงานอย่างจริงจัง จะทำให้สามารถจัดการปัญหาได้มากขึ้น
...ผสข.วิรวินท์ ศรีโหมด