เมืองไทยวันนี้ฯ (2) :ส่งแว้นนับร้อยเข้าสถานพินิจ/คลังเสนอขยายเวลาไม่ขึ้นภาษีแวต/สธ.รายงานไอคิวอีคิวเด็กไทยลดลง*

เมื่อคืนนี้ กลุ่มชาวโรฮิงญาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ (บ้านศรีสุราษฎร์) ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อเหตุประท้วงทั้งการปิดไฟ และทุบทำลายหน้าต่างของเรือนนอน เพราะไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ไม่ให้นำอาหารเข้ากินในเรือนนอน ทั้งยื่นข้อเรียกร้องว่าไม่ต้องการเดินทางไปสหรัฐอเมริกา แต่ต้องการไปมาเลเซีย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ขุนทะเล และ สภ.เมืองสุราษฎร์ฯ เข้าควบคุมสถานการณ์ และแยกแกนนำออกมาสอบสวน พร้อมจัดกำลังมาป้องกันการหลบหนีออกจากเรือนนอน

สำหรับกลุ่มโรฮิงญาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในสถานที่แห่งนี้เป็นหญิงและเด็กจำนวน 94 คน เป็นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์จำนวน 35 คน นอกนั้นเป็นผู้ที่หลบหนีเข้าเมือง และมีเหตุพยายามหลบหนีออกจากที่ควบคุมหลายครั้งแล้ว

ส่วนกรณีการจับกุมกลุ่มจักรยานยนต์ซิ่งเมื่อกลางดึกวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และศาลเยาวชนได้ส่งตัวเยาวชนอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี และไม่เกิน 18 ปี ประมาณ 125 คนมาที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งนายวีระยุทธ สุขเจริญ อธิบดีกรมพินิจฯ เปิดเผยว่า เมื่อส่งตัวมาที่สถานพินิจแล้ว ก็จะมีการนำเยาวชนชายไปไว้ที่บ้านเมตตา ย่านบางนา และส่งเยาวชนที่เป็นหญิง 2 คนไปที่บ้านปราณี ที่อ.สามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องมีการตรวจร่างกาย และทำประวัติ ส่วนเยาวชนที่เหลือแล้วแต่ศาลเยาวชนจะพิจารณา

โดยในปัจจุบันพ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัว วิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน ปี 2553 ระบุว่า หลังจากเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน จะต้องส่งตัวมาพักที่สถานพินิจฯ ก่อนส่งฟ้องศาลเยาวชน หากจะประกันตัวต้องไปประกันตัวที่ศาลเยาวชน ส่วนใหญ่เยาวชนที่ถูกจับกุมจะอยู่กับสถานพินิจประมาณ 1-3 เดือน หากบำบัดและเยียวยาได้ยาก ก็จำเป็นต้องพักอยู่นานกว่า 1 ปี และศาลเยาวชนจะสั่งให้กรมพินิจฯ ส่งตัวไปยังศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนที่มีอยู่ทั่วประเทศ 18 แห่ง เพื่ออบรม บำบัด พร้อมฝึกวิชาชีพ ขณะนี้กรมพินิจฯได้รับเยาวชนเข้ามาดูประมาณ 8,000-9,000 คน และในปี 2557 มีเยาวชนเข้ามาอยู่กับกรมพินิจประมาณ 30,000-40,000 คน

โดยในวันนี้ จะมีการนำผู้ต้องหาที่อายุเกิน 18 ปี อีก 126 คน ส่งฟ้องศาลแขวงธนบุรี และเชิญตัวผู้ปกครอง มาสอบปากคำตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.  2546 เพื่อดูว่าใส่ใจดูแลบุตรหลาน หรือปล่อยปละละเลยบุตรหลานหรือไม่

ยังมีคดีแชร์ลูกโซ่ข้ามชาติ ซึ่งมีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 2 คน ในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งพล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตาผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการโอนเงินเข้า บ.ยูฟันฯ ของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนพบมีเงินหมุนเวียนกว่า 160 ล้านบาทและผู้ต้องหายังให้การวกวน

มาที่การพาณิชย์ น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงสุดท้ายของการนำส่งงบการเงินประจำปี โดยนิติบุคคลที่ยังดำเนินกิจการอยู่กว่า 6 แสนรายทั่วประเทศ และมีรอบบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ต้องนำส่งงบการเงินภายในวันนี้ หากไม่นำส่งหรือนำส่งล่าช้า จะมีโทษตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งกรมจะส่งดำเนินคดีทุกราย และจะระบุข้อควรทราบในหนังสือรับรองนิติบุคคล เพื่อแจ้งเตือนให้คู่ค้าและผู้ร่วมลงทุนทราบเป็นข้อมูลให้ระวังเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของธุรกิจก่อนตัดสินใจร่วมลงทุน นอกจากนี้จะร่วมมือกับกรมสรรพากรเรียกบัญชีตรวจสอบรายละเอียด เพื่อขจัดปัญหาธุรกิจหลีกเลี่ยงปฏิบัติตามกฎหมาย

ด้านการคลัง นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังจะไม่ปรับเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ที่ลดอัตราการเก็บจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 7 ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเพื่อให้ขยายเวลาลดแวตออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปี แต่ ครม.จะให้ขยายเวลาออกไปมากกว่าก็ได้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณา ซึ่งก็ไม่มีผลต่อการเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในปีงบประมาณ 2559 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา เนื่องจากเป้าหมายอยู่ภายใต้สมมติฐานไม่มีการเพิ่มแวต

ในวันนี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย มีกำหนดพิจารณากฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจ

ส่วนนายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบาย การเงิน ธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) แถลงบทบาทของค่าเงินในการดำเนินนโยบายการเงิน ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย

และนายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ หรือเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคม 2558

และยังมีกรณีการทุจริตกระทรวงศึกษาธิการ ในวันนี้ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะเป็นตัวแทนกลุ่มครูไปยื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล เพื่อร้องทุกข์ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีเงินกองทุนช่วยเหลือครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ค่าสงเคราะห์รายศพ ที่เรียกเก็บเงินจากครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ลูกจ้างประจำ แต่กลับไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งยอดรายรับและรายจ่ายให้สมาชิกได้รับทราบ จึงต้องการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะโครงการนี้มีสมาชิกกว่า 1 ล้านคน มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 8,500 ล้านบาท และในวันที่ 5 มิถุนายน จะไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับสภาทนายความให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีนี้ ขณะเดียวกันคาดว่าทาง พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. จะแถลงผลความคืบหน้าของคดีด้วย จึงจะต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงย้อนหลัง 10-15 ปี หรือตามระบบบัญชีทางธนาคาร หากพบว่ามีการกระทำความผิด ขอให้พิจารณาและดำเนินคดีทันที

และปิดท้ายที่รายงานของกระทรวงสาธารณสุข ที่พบว่าไอคิว-อีคิวของเด็กไทยลดลง ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยผลการสำรวจระดับสติปัญญาหรือไอคิว (IQ) และความฉลาดทางอารมณ์หรืออีคิว (EQ) ของเด็กไทยวัยประถมศึกษาปีที่ 1 ปี พ.ศ.2557 จำนวน 4,929 คน ทุกภาคทั่วประเทศ พบไอคิวเฉลี่ยอยู่ที่ 93.1 จุด ลดลงจากปี 2554 ที่มีอยู่ 94 จุด ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานโลกที่กำหนดเฉลี่ยอยู่ที่ 100 จุด โดยเด็กในเมืองมีค่าเฉลี่ยไอคิวสูงกว่าเด็กในชนบท ส่วนอีคิวอยู่ระดับปกติทั้งเขตเมืองและชนบท แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการ ก็คือให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีของเล่นที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการ ส่งเสริมให้ทุกครอบครัวและศูนย์เด็กเล็ก เลี้ยงดูเน้น "กิน กอด เล่น เล่า ลดดูทีวี ลดเล่นเกม" สร้างความใกล้ชิด ผูกพันระหว่างเด็กกับผู้เลี้ยงดู ช่วยกระตุ้นพัฒนาการเด็กและเห็นความผิดปกติของเด็กได้เร็วขึ้น

*-*