วาระงานในวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และในช่วงเย็น จะรับมอบเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เนปาล ตามโครงการ "หัวใจไทย ส่งไปเนปาล"
ส่วนความคืบหน้าของการร่างรัฐธรรมนูญ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.ยกร่างฯ ) กล่าวว่า วันที่ 2-6 มิถุนายนนี้ ที่กมธ.ยกร่างฯ จะพิจารณาคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญจาก สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และครม.นั้น เป็นการเชิญมาเพื่อทำความเข้าใจในข้อมูล
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน กมธ.ยกร่างฯ เปิดเผยว่า กรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสนอเปลี่ยนนิยามคำว่า “พลเมือง” เป็น “บุคคล” นั้น จะกระทบต่อหลักการของ กมธ.ยกร่างฯ แน่นอน เพราะต้องการให้มีความชัดเจน สะท้อนให้เห็นความสำคัญในการทำหน้าที่ของประชาชนในฐานะพลเมือง ซึ่งมองว่าถูกต้องแล้วโดยเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นหลักที่ต้องพิจารณา ส่วนเรื่องโครงสร้างทางการเมืองที่เสนอเป็นสิ่งที่ต้องรับฟังและเห็นด้วยที่ต้องปรับในหลายประเด็น
โดยการประชุมคณะ กมธ.ยกร่างฯ วันนี้ จะเป็นกลุ่มของ สปช. เริ่มที่กลุ่มของ นพ.พลเดช ปิ่นประทีป ในช่วงเช้า จากนั้นช่วงบ่ายจะเป็นกลุ่มของนายธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์ ซึ่งนายธีรยุทธ์ ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน สปช. เปิดเผยว่า กลุ่มยื่นคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับประเด็นบริหารราชการแผ่นดิน 40 มาตรา โดยเห็นว่า ประเด็นที่มีความไม่เห็นด้วยมากที่สุดก็คือ การที่กมธ.ยกร่างฯกำหนดให้มี “องค์กรบริหารพัฒนาภาค" ทำหน้าที่สนับสนุนการพัฒนาจังหวัดต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในภาคและกำกับดูแลหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ จัดทำแผนและบริหารงบประมาณแบบพื้นที่ เพื่อดำเนินการพัฒนาภาคที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาประเทศ เพราะเกรงว่าอาจจะมีบทบาทหน้าที่ที่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นๆในการบริหารงานส่วนภูมิภาค
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนาทวี อนุมัติหมายจับพล.ท.มนัส คงแป้น อายุ 58 ปี ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานสมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป กระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปีร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันเรียกค่าไถ่ ในเหตุเกิดที่ประเทศบังกลาเทศ ประเทศพม่า และประเทศไทยในจังหวัดระนอง พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล โดยเฉพาะในที่พักชั่วคราว ป่าเทือกเขาแก้ว หมู่ที่ 8 ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีความเกี่ยวพันกัน
ซึ่งพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เปิดเผยว่า มีการติดตามข้อมูลมาระยะหนึ่งแล้วและเมื่อตำรวจมีหลักฐานชัดเจนก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายและดำเนินการโดยเด็ดขาด ซึ่งตามขั้นตอนของกระทรวงกลาโหม ระบุว่าเมื่อมีหมายจับก็จะต้องพักราชการ และสอบสวนเพื่อเอาผิดทางวินัย ขณะที่พล.ท.มนัสก็ต้องต่อสู้ตามกฎหมายต่อไป ทั้งระบุว่ากำลังพลคนใดก็ตามที่เข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องการค้ามนุษย์จะถูกดำเนินการอย่างเฉียบขาด
ขณะที่พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ในวันนี้จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ มากขึ้นและว่า กองทัพบกยินดีให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม
ด้านพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ประชุมติดตามคดีค้ามนุษย์ ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 จ.ระนอง สุราษฎร์ธานี และจ.นครศรีธรรม ราช และพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 จ.สตูล และ จ.สงขลา ซึ่งใกล้จะถึงเวลาที่จะสรุปสำนวนการสอบสวนเสนอให้อัยการสูงสุด ในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ โดยยอดผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับขณะนี้ 84 คน จับกุมได้แล้ว 51 คน เหลืออีก 33 คน ที่ยังหลบหนี
นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า จากนโยบายการสร้างประเทศไทยเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ซึ่งนอกจากการปรับเปลี่ยนองค์กรภาครัฐแล้วก็จะต้องมีการพัฒนาบุคลากรด้วยเช่นกัน โดยกระทรวงไอซีทีพร้อมที่ปรับเปลี่ยนเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งยังมีการพิจารณาไปถึงการปรับภาพลักษณ์ขององค์กร รวมทั้งการมีกระบวนการที่จะทำให้มีการดำเนินงานภายในและการให้บริการแบบดิจิทัลอย่างแท้จริง เพื่อให้สังคมเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและให้เกิดการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นค่านิยมขององค์กรในระยะยาว
ส่วนในการประชุมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2559 วาระที่ 1 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งมีการชื่นชมการทำงานของกระทรวงวัฒนธรรมในหลายด้านนั้นทางสนช. ยังเห็นชอบให้เพิ่มการอุดหนุนงบประมาณ เพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงานด้วย โดย ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยด้วยว่า สนช.ยังเสนอให้วธ.ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมวัฒนธรรม ด้านวัฒนธรรมการรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ วัฒนธรรมประชาธิปไตย วัฒนธรรมการดำรงชีวิตให้ประชาชนใช้เศรษฐกิจพอเพียง วัฒนธรรมในการทำงานอย่างจริงจังและจริงใจ มาเป็นแนวทางการอยู่ร่วมกัน ซึ่งวธ.ยินดีรับข้อเสนอแนะ