โต้วาทีนัดแรก ไบเดน-ทรัมป์ เน้นประเด็นเศรษฐกิจ ยูเครน และอายุของทั้ง 2 คน

28 มิถุนายน 2567, 10:30น.


          การโต้วาทีนัดแรกของตัวแทนผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน จากพรรคเดโมแครต กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ที่นครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ในหัวข้อเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การต่างประเทศ และประเด็นทางสังคม จบลงด้วยความกังวลเกี่ยวกับอายุของผู้สมัครทั้ง 2 คนหากชนะการเลือกตั้งและจะอยู่ในตำแหน่งอีก 4 ปี



          เริ่มตั้งแต่ในคำถามแรกเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งนายไบเดนกล่าวว่า “รู้สึกแย่ที่สุด" จากนั้นก็เปลี่ยนคำตอบอย่างรวดเร็วโดยบอกว่านายทรัมป์ทิ้งปัญหาเศรษฐกิจที่พังทลายไว้ มีอัตราการว่างงานในระดับสูง ทำให้รัฐบาลของเขาต้องจัดการทุกอย่างให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม โดยย้ำว่าทุกอย่าง "แย่มาก" ภายใต้การบริหารของนายทรัมป์ ซึ่งกล่าวตอบโต้ในทันทีว่า สหรัฐฯ มีเศรษฐกิจที่ยอดเยี่ยมที่สุดในช่วงเวลาที่เขาเป็นประธานาธิบดี เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องนำเงินงบประมาณออกมาใช้ เพื่อป้องกันวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่



          อีกประเด็นที่มีการโต้เถียงกันคือสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน ยูเครน และฉนวนกาซา ซึ่งนายทรัมป์กล่าวเชื่อมโยงว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียสั่งโจมตียูเครน ก็เพราะเห็นว่า สหรัฐฯ ล้มเหลวในการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน และสงครามในฉนวนกาซาจะไม่เกิดขึ้น หากเขายังอยู่ในตำแหน่ง ที่ทำให้นายไบเดน กล่าวตอบโต้ว่า เขาไม่เคยได้ยินเรื่องไร้สาระมากมายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต และกล่าวปกป้องนโยบายการต่างประเทศ ทั้งต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลางและอัฟกานิสถาน รวมถึงในยูเครนว่า นายปูติน เป็นอาชญากรสงครามที่ต้องการสถาปนาจักรวรรดิโซเวียตขึ้นมาใหม่ และจะไม่หยุดเพียงแค่การยึดครองยูเครน การปล่อยให้นายปูตินโจมตียูเครนโดยไม่ต่อต้าน จะนำไปสู่สงครามครั้งใหญ่



          นางดาน่า บาช ผู้ดำเนินรายการ CNN ถามต่อถึงประเด็นที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ความสนใจเกี่ยวกับสิทธิในการทำแท้ง ซึ่งนายทรัมป์ กล่าวว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการใช้ยา แม้ศาลฎีกา จะเพิ่งยืนยันสิทธิในการใช้ยา และไม่ได้ตอบคำถามนี้ให้แน่ชัด โดยกล่าวว่า ทุกคนต้องการให้รัฐตัดสินใจว่าการทำแท้งควรถูกกฎหมายหรือไม่ และตอนนี้รัฐต่างๆ กำลังพิจารณาอยู่



          อย่างไรก็ตาม นายไบเดนแสดงความโกรธเป็นครั้งแรก เมื่อนายทรัมป์กล่าวว่าพรรคเดโมแครตบางคนสนับสนุนการทำแท้ง นายไบเดน กล่าวว่า "นั่นไม่เป็นความจริง" ทั้งกล่าวโจมตีนายทรัมป์ที่แต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกาที่ล้มล้างสิทธิการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญของประเทศ



          สิทธิในการทำแท้งยังเป็นประเด็นสำคัญสำหรับพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่อาจทำให้กลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบทางการเมือง



          ปิดท้ายการโต้วาทีครั้งนี้ด้วยคำถามเกี่ยวกับอายุของทั้ง 2 คน ผู้ดำเนินรายการขอให้นายไบเดนวัย 81 ปี และนายทรัมป์วัย 78 ปี พูดถึงความกังวลของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกี่ยวกับอายุของพวกเขา



          นายไบเดน กล่าวว่า เขาใช้เวลาครึ่งหนึ่งทางการเมืองภายใต้การถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นคนอายุน้อยที่สุดในวงการการเมือง เนื่องจากเป็นคนอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสองที่ได้รับเลือกเข้าสู่วุฒิสภาสหรัฐ และตอนนี้ฉันอายุมากที่สุดแล้ว ส่วนนายทรัมป์อายุน้อยกว่าเขา 3 ปีและมีความสามารถน้อยกว่ามาก ดังนั้นผู้มีสิทธิเลือกตั้งจึงพิจารณาจากประวัติการทำงาน



          ส่วนนายทรัมป์ ขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งพิจารณาผลการทดสอบภาวะสมองเสื่อมระยะแรกเริ่ม (Montreal Cognitive Assessment : MoCA) ที่เขาเข้ารับการทดสอบเมื่อปี 2561 ซึ่งเป็นแบบทดสอบที่นายไบเดนไม่ยอมทำ



          นักวิเคราะห์ มีความเห็นว่าการโต้วาทีครั้งนี้ ทั้ง 2 คนมีท่าทีเงียบขรึมมากกว่าในการพบกันครั้งแรกเมื่อปี 2563 ซึ่งในเวลานั้นทั้งคู่จะพยายามแย่งชิงกันชี้แจงและพูดทับซ้อนกัน นอกจากนี้น้ำเสียงของนายไบเดนยังแหบเป็นพิเศษ ซึ่งทางทีมงานของเขาชี้แจงว่า เนื่องจากป่วยเป็นไข้ และหลังจากการโต้วาทีเสร็จสิ้น เขาจะไปเข้าร่วมการหาเสียงต่อที่นอร์ทแคโรไลนา จากนั้นจะเดินทางกลับนิวยอร์ก



...



#เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ



#โต้วาที



#โดนัลด์ทรัมป์



#โจไบเดน

ข่าวทั้งหมด

X