จากเหตุการณ์กองทัพยูเครนใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯโจมตีคาบสมุทรไครเมีย เมื่อวันอาทิตย์(23 มิ.ย.67) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 150 คน เจ้าหน้าที่รัสเซีย ระบุว่า ในการโจมตีเข้าใส่เมืองเซวาสโตโพล มีการรายงานข่าวเผยแพร่ภาพผู้คนพากันวิ่งหนีออกจากชายหาดแห่งหนึ่งในเมืองดังกล่าว และเร่งนำผู้บาดเจ็บบางส่วนออกมาขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้ชายหาดด้วย
ทำเนียบเครมลิน กล่าวโทษสหรัฐฯ อย่างตรงไปตรงมาสำหรับการโจมตีไครเมียด้วยขีปนาวุธ ATACMS ที่สหรัฐฯ จัดหาให้ ทั้งนี้ รัสเซียผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนแต่เพียงฝ่ายเดียวในปี 2014 แม้นานาชาติยังคงพิจารณาว่าเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากยิ่งขึ้นไปอีก
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เชิญนางลินน์ เทรซี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เข้าพบเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการ พร้อมเตือนเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการว่าจะมีการตอบโต้ตามมา นางเทรซี กล่าวว่า สหรัฐฯเสียใจกับผู้เสียชีวิต
นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ควรไปถามเพื่อนร่วมงานของคุณในยุโรป และที่สำคัญก็คือ ที่กรุงวอชิงตัน รวมทั้งโฆษกทั้งหลายว่า ทำไมรัฐบาลของพวกเขาถึงเข่นฆ่าเด็กๆ ชาวรัสเซีย รัสเซีย กล่าวว่า สหรัฐฯ เป็นผู้จัดส่งอาวุธที่ใช้โจมตีในเหตุการณ์นี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านทหารของสหรัฐฯ เป็นผู้ช่วยตั้งเป้าเล็งการยิงและป้อนข้อมูลให้ผู้โจมตี ทั้งยูเครนและสหรัฐฯ ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นต่อกรณีการโจมตี
สงครามในยูเครนทำให้เกิดวิกฤตความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตะวันตกเพิ่มมากยิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่รัสเซีย กล่าวว่า ในปัจจุบันความขัดแย้งกำลังเข้าสู่ระดับที่อันตรายที่สุด
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เตือนหลายครั้งถึงความเสี่ยงของสงครามที่ขยายวงกว้างมากขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับมหาอำนาจนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าเขาจะกล่าวว่ารัสเซียไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งกับพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ( NATO) ที่นำโดยสหรัฐฯ
#โจมตีไครเมีย
#รัสเซีย
#สหรัฐฯ
#ยูเครน