ประเด็นเรื่องให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) ออกจากราชการไว้ก่อน กลับมาเป็นประเด็นร้อน
รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เปิดเผยว่า วันนี้ (24 มิ.ย.67) พล.ต.ท. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะเป็นประธานหารือบันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตอบข้อหารือสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในเรื่องดังกล่าว โดยมีตัวแทนจากหลายหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุม เช่น สำนักงานกำลังพล (สกพ.) ,สำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) และ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (สง.ก.ตร.) หารือว่าต้องดำเนินการอย่างไร หรือไม่ดำเนินการอย่างไร ตามบันทึกคณะกรรมการกฤษฎีกาบ้าง เพื่อเสนอ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ต่อไป
กรณีนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 มิ.ย.67 นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกฯ แถลงว่า คำสั่งให้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน เป็นการออกคำสั่งตามมาตรา 132 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2505 ที่เคยทำกันมาในอดีต แต่ใน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ได้มีการเพิ่มมามาตราหนึ่งว่า ในกรณีที่สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้วไปกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของบุคคลนั้น คำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน ต้องทำโดยคำแนะนำของคณะกรรมการสอบสวน แต่เนื่องจากเมื่อวันที่ 18 เม.ย.67 มีการออกคำสั่งถึง 3 คำสั่งคือ
-สั่งให้กลับ สตช.
-สั่งตั้งกรรมการสอบวินัย
- สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันที
ซึ่งเป็นปัญหา และมีการส่งไปหารือคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยคณะกรรมการกฤษฎีกา มีมติเห็นว่า การสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนไปกระทบต่อสิทธิประโยชน์และหน้าที่ รวมทั้งสิทธิการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงต้องทำตามคำแนะนำของคณะกรรมการสอบสวน แต่เรื่องนี้ไม่ผ่านคณะกรรมการสอบสวน คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงเห็นว่า ไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรม จึงให้ไปดำเนินการให้ถูกต้อง
ด้าน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ กรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยื่นเรื่องให้ ก.ตร.พิจารณา 2 ครั้ง เพื่อให้ ก.ตร.มีมติให้ ผบ.ตร.ยกเลิกคำสั่ง อ้างว่าคำสั่งดังกล่าวมิชอบด้วยกฎหมาย โดยครั้งที่ 2 แนบบันทึกของคณะกรรมการกฤษฎีกาอย่างที่นายวิษณุ สรุปว่าคำสั่งไม่ชอบ สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ผบ.ตร. แก้ไขคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กลับเข้ารับราชการ หรือ ก.ตร. วินิจฉัยสั่งการให้ผบ.ตร.กลับคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กลับเข้ารับราชการ แต่มีความเสี่ยงจะถูกกล่าวโทษว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ เพราะเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.67 อนุกรรมการข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัยที่มี พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร.เป็นประธาน วินิจฉัยบันทึกคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ตอบข้อหารือสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีมติเสียงข้างมากว่าคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการนั้นชอบแล้ว โดยไม่ได้รับข้อสังเกตบันทึกคณะกรรมการกฤษฎีกา เนื่องจาก มีคำสั่งศาลปกครองสูงสุดว่าข้อสังเกตคณะกรรมการกฤษฎีกามิได้มีผลให้หน่วยงานต้องปฏิบัติตาม
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯในฐานะประธาน ก.ตร. นัดประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 5/2567 ในวันพุธที่ 26 มิ.ย. 67 เวลา 15.00 น. วาระที่ถูกจับตา คือ วาระที่ 4 ที่ประชุมจะพิจารณาผลสรุปการสอบสวนของอนุกรรมการวินัยฯ ที่มีผลสรุปคำสั่ง ตร.ที่ 177-178/2567 เรื่องให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
#บิ๊กโจ๊ก
#ออกจากราชการไว้ก่อน
แฟ้มภาพ