ความคืบหน้าการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญา เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดี และเปิดเผยว่า ประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจคือ การติดตามจับกุมผู้ต้องหา โดยเฉพาะนายณัฐภัทร แสงทอง หรือโกมิก เครือข่ายค้ามนุษย์ในจ.ระนอง ซึ่งได้รับการยืนยันจากผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจว่าถูกจับกุมที่ประเทศพม่า อยู่ระหว่างประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจกองการต่างประเทศ เพื่อขอนำตัวเข้ามาดำเนินคดีแล้ว ในส่วนของการสอบสวนได้ขออนุมัติให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งภาค 8 และภาค 9 เนื่องจากคดีนี้เชื่อมโยงกันหลายจังหวัด ทั้งระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สตูล และสงขลา
ส่วนการนำตัวผู้เสียหายชาวโรฮิงญา 12 คน ไปชี้พื้นที่เกิดเหตุบริเวณเทือกเขาแก้ว หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อประกอบคดีค้ามนุษย์ ผู้เสียหายจำเส้นทางได้อย่างถูกต้องตลอดจนรายละเอียดต่างๆ ในที่พักแต่ละแห่งได้เป็นอย่างดี โดยคดีนี้จะพิจารณาไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่สามารถยืนยันและสรุปได้ เพราะผู้ต้องหาบางคนจะต้องถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติม และล่าสุดได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 2 คน เป็นชาวพม่า นายหน้าเครือข่ายค้ามนุษย์โรฮิงญา รวมแล้วขณะนี้ออกหมายจับไปแล้วจากเดิม 81 คน เพิ่มเป็น 83 คน จับกุมได้แล้ว 51 คน เหลืออีก 32 คนที่ยังหลบหนี
ส่วนในเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ทางพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยืนยันว่าเป็นไปตามกรอบกฎหมาย และการส่งเรื่องคืนให้ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการถอดยศตำรวจ ก็เพื่อให้คณะกรรมการได้ลงมติรับรองให้ถูกต้อง โดยยืนยันว่า การดำเนินการถอดยศ จะต้องมีเหตุผลที่สามารถชี้แจงและตอบคำถามได้ จะรีบเร่งหรือทำตามอารมณ์ ความรู้สึกหรือกระแสคงไม่ดี
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ตอบโต้กระแสข่าวต่างๆ แต่ยืนยันว่า ทำทุกอย่างไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ด้านน.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คนที่ 2 กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 มาตรา 38 เพื่อต่ออายุ สปช. หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านความเห็นชอบ ว่า ไม่เคยทราบมาก่อน เพราะจะมีเพียงการแก้ไขเพื่อการจัดให้ออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น
ขณะที่ นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่าในวันที่ 2-6 มิถุนายนนี้ ตัวแทนผู้ยื่นคำขอเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญจะเข้าชี้แจง โดย ทาง กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ จะเน้นรับฟังการชี้แจงหลักการและเหตุผลเป็นหลัก โดยจะไม่แสดงความคิดเห็นหรือไปตอบโต้ ยกเว้นบางกรณีที่มีความไม่ชัดเจนก็คงต้องสอบถามเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ เพราะทำให้เกิดความชัดเจนในสิ่งซึ่งเสนอขอแก้ไขมา
โดยแต่ในการเชิญตัวแทนกลุ่มของนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และนายเสรี สุวรรณภานนท์ สปช. กลุ่มการเมืองและกระบวนการยุติธรรมเข้าชี้แจงในวันที่ 4 มิถุนายนนั้น อาจจะต้องเลื่อนออกไปเป็นวันอื่น เพราะตรงกับการจัดสัมมนาเพื่อรับฟังผลการดำเนินงาน 1 ปีของรัฐบาลซึ่งกำหนดให้ สปช.และ สนช.เข้าร่วมด้วย จึงต้องมีการหารือเพื่อกำหนดวันชี้แจงใหม่
สำหรับกำหนดการที่เปิดให้ผู้ยื่นคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ เข้าชี้แจงต่อ กมธ.ยกร่างฯระหว่างวันที่ 2-6 มิถุนายน มีดังนี้ วันที่ 2 มิถุนายน เวลา 09.00-12.00 น.กลุ่มของ นพ.พลเดช ปิ่นประทีป
เวลา 13.00-16.30 น.เป็นกลุ่ม นายธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์
วันที่ 3 มิถุนายน เวลา 09.00-12.00 น.เป็นกลุ่มของ นายมนูญ ศิริวรรณ
เวลา 13.00-16.30 น.เป็นกลุ่มของนายประสาร มฤคพิทักษ์
วันที่ 4 มิถุนายน เวลา 09.00-12.00 น.เป็นกลุ่มของนาย พงศ์โพยม วาศภูติ
เวลา 13.00-16.30 น.เป็น กลุ่มของ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์
วันที่ 5 มิถุนายน เวลา 09.00-12.00 น.เป็นกลุ่มของนายสมชัย ฤชุพันธุ์ เวลา 13.00-16.30 น.เป็น กลุ่มของ นายสมศักดิ์ โล่สถาพรพิพิธ
และ วันที่ 6 มิถุนายน เวลา 09.00-12.00 น.เป็น กลุ่มของ ครม. นำโดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย
ส่วนเรื่องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเสียงข้างมาก ชี้มูลความผิด นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีต รมว.ศึกษาธิการ และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ จากกรณีไม่แสดงเงินฝากของตนและหรือของคู่สมรสที่ฝากไว้ในบัญชีต่าง ๆ และไม่แสดงบ้านพักอาศัยในจ.อ่างทอง จึงให้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอศาลสั่งให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดิน
จากนั้นนายสมศักดิ์ จะแถลงชี้แจงที่พรรคชาติไทยพัฒนา และยอมรับมติ ป.ป.ช. ในวันนี้ แต่ก็แจ้งขอยกเลิก เพราะเรื่องยังต้องเข้าสู่กระบวนการทางศาลฎีกาฯ แต่ยืนยันเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยให้ความเคารพ ในเสียงของ ป.ป.ช.
และในวันนี้ เป็นวันวิสาขบูชา กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีหนังสือถึงผู้ประกอบการร้านค้าและสถานบริการ เรื่องงดจำหน่ายสุรา เนื่องในวันวิสาขบูชา ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 1) พฤษภาคม 2558 ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ยกเว้นการขายเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ จึงขอให้งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ทั้งชนิดขายส่งและขายปลีกทั่วราชอาณาจักร ตลอด 24 ชั่วโมง หลังเวลา 24.00 น. ของคืนวันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม 2558 ไปจนถึง เวลา 24.00 น. ของคืนวันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2558 หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 19 แห่ง ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
*-*