นายยุทธนา นาคเรืองศรี ผบ.เรือนจำกลางบางขวาง กล่าวถึงเรื่องความคืบหน้าในการคุมขังนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด หลังพ้นระยะการกักโรคโควิด-19 ว่า ภายหลังจากที่นายเชาวลิต พ้นระยะการกักโรค 10 วัน ขณะนี้ยังคงอยู่ในแดนควบคุมพิเศษ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างรอผลการสอบสวนวินัยของผู้ต้องขังจากคณะกรรมการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ว่าจะมีการพิจารณาบังคับโทษขังเดี่ยวนานกี่เดือน เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้มีคณะกรรมการชุดดังกล่าวเข้ามาพบนายเชาวลิต ภายในเรือนจำกลางบางขวางเรียบร้อยแล้ว คาดว่า คณะกรรมการฯ อยู่ระหว่างการเรียบเรียงและตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดที่ได้จากการสอบถามนายเชาวลิต จากนั้นหากมีผลบังคับโทษแจ้งเป็นเอกสารรายงานมา ตนจึงจะสามารถออกคำสั่งบังคับโทษขังเดี่ยวได้
โดยก่อนจะเข้าพบผู้ต้องขัง ทนายจะต้องไปประสานกับศาล เพื่อศาลรับทราบว่าทนายความรายดังกล่าวจะเป็นผู้แก้ต่างให้กับผู้ต้องหาในคดีใด ดังนั้น หากทนายความจะเข้าไปพบผู้ต้องขังในเรือนจำ ทนายก็จะต้องเอาเอกสารดังกล่าวจากศาลมาแสดงต่อเรือนจำว่ามีความประสงค์จะพบผู้ต้องขัง เนื่องจากเป็นทนายความรับผิดชอบในคดี ทั้งนี้ ทนายความของผู้ต้องขังสามารถมีได้หลายคน เพราะบางท่านอาจถนัดคดีแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน
ก่อนหน้านี้ นายกษิดิ์ชาติ ทองด้วง อายุ 53 ปี พี่ชายนายเชาวลิต ระบุว่า น้องชายขอพบทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เพื่อต้องการให้ข้อมูลสำคัญ กรณีมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการและธุรกิจสีเทาผิดกฎหมาย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่ช่วยให้นายเชาวลิต หลบหนีออกนอกประเทศ พร้อมระบุว่า มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนมากกว่า 10 นาย มีเงินหมุนเวียนที่ส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้น ทั้งตำรวจ สส. นักการเมืองท้องถิ่น และอัยการ มูลค่าหลายสิบล้านบาท เฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเดียวก็เป็นระดับพลตำรวจเอกที่อยู่นอกราชการ
#แป้งนาโหนด