นายกฯยอมรับกังวล งบปี68 อาจถึงศาลรธน.-ไม่ตอบโต้ ผู้ว่าฯแบงก์ชาติคิดต่างแจกเงินดิจิทัล

          การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เป็นวันที่สอง ฝ่ายค้านยังมีข้อกังขาต่อการใช้งบฯ สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึงการอภิปรายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 68 อาจจะผ่านวาระ 1 แต่วาระ 3 ที่มีเวลาพิจารณา 105 วัน อาจมีการเปลี่ยนแปลงและอาจไปถึงศาลรัฐธรรมนูญนั้น

          นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรียอมรับมีความกังวล แต่ก็ต้องให้เกียรติทุกคน โดยเฉพาะฝ่ายนิติบัญญัติที่มีความไม่สบายใจ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องตอบคำถามต่อไป ส่วนเรื่องจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ก็ต้องว่าไปตามกลไกนั้น รัฐบาลมีหน้าที่ต้องตอบ

          สำหรับประเด็นที่ว่าดิจิทัลวอลเล็ต จะเข้ามาช่วยเศรษฐกิจได้อย่างไร นายกฯย้ำว่า เงินจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะเป็นเงินใหม่ที่ใส่เข้าไปในระบบประมาณ 5 แสนล้านบาท เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับภูมิภาค เพราะรัฐบาลจำกัดให้ใช้ในพื้นที่ตามบัตรประชาชน ภายในระยะเวลาจำกัดที่ 6 เดือน ซึ่งหากเราทราบวันที่แน่นอนที่จะมีเงินจากดิจิทัลวอลเล็ตออกมา ก็เชื่อว่าภาคอุตสาหกรรม และ SME ทั้งหลาย จะเร่งการผลิตเพื่อรองรับกำลังซื้อในส่วนนี้ ซึ่งจะเห็นภาพของการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ชัดเจนขึ้น

           ส่วนที่ถูกมองว่าเป็นการเพิ่มหนี้สาธารณะ หลังจากปี 2570 กลายเป็นภาระของรัฐบาลชุดต่อไปนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องมีการทำให้สมดุล ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ก่อนที่นโยบายอื่น ๆ จะเริ่มออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการลงทุนข้ามชาติ จากการจ้างงาน ยกระดับอุตสาหกรรมไทยขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง และระหว่างนี้หากมีโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมาช่วย ก็จะทำให้การลงทุนจากต่างประเทศ และ GDP โตขึ้น

          ด้านความเห็นของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ มองว่าดิจิทัลวอลเล็ตไม่ควรหว่านแจกให้ประชาชนทั้งหมด เพราะเป็นเรื่องไม่จำเป็นนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงว่า เป็นความเห็นต่างที่จะต้องพูดคุยกันต่อไป

#แจกเงินดิจิทัล

#งบปี2568