ตามที่งานโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.) แถลงเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ว่านายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด มีคำสั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 112 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 1 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 8
วันนี้ (18 มิถุนายน 2567 เวลา 08.56 น.) นายวิพุธ บุญประสาท อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 ในฐานะหัวหน้าพนักงานอัยการที่ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด ให้เป็นผู้รับผิดชอบคดีได้ส่งฟ้องนายทักษิณ ต่อศาลอาญา ตามข้อกล่าวหาดังกล่าวข้างต้นเรียบร้อยแล้ว โดยศาลประทับรับฟ้องไว้ตามหมายเลขคดีดำที่ อ.1860/2567 ซึ่งบัดนี้คดีได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลอาญาแล้ว ด้านนายทักษิณ เดินทางออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 71 ย่านบางพลัด กรุงเทพฯ ด้วยรถเมอร์เซเดสเบนซ์ สีเทา ทะเบียน ธษ 267 กรุงเทพมหานคร เพื่อเดินทางไปรายการตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลอาญา รัชดาภิเษก หลังอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องนายทักษิณ ตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นายทักษิณ ได้เดินทางมาถึงศาลอาญา เวลา 08.50 น.ได้เข้าไปด้านหลังศาลอาญา จากนั้นไปรายงานตัวกับอัยการทันที เพื่อนำส่งฟ้องตามข้อกล่าวหา
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความและตัวแทนนายประกัน เปิดเผยว่า วันนี้ในฐานะที่เป็นทนายความและนายประกันของนายทักษิณ มีหน้าที่มาพบและรายงานตัวกับพนักงานอัยการ ส่วนเรื่องการประกันตัวก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ว่าจะรับคำร้องหรือไม่ซึ่งทางเราก็จะยื่นคำร้องประกอบอยู่แล้ว ส่วนตัว นายทักษิณ ไม่ได้กังวลพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รายงานระบุว่า มีการเตรียมเงิน 5 แสนบาท เพื่อยื่นขอประกันตัว อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลประทับรับฟ้องแล้ว สถานะเปลี่ยนเป็นจำเลย
#คดีทักษิณ112