เรือน้ำมันของกลางเทียบท่ากัมพูชา ขายน้ำมันเกือบหมด พรุ่งนี้ส่งตัวผู้ต้องหาเข้ากรุง

17 มิถุนายน 2567, 18:50น.


          พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ แถลงการติดตามจับกุมผู้ต้องหาพร้อมเรือขนน้ำมันเถื่อน 3 แสนลิตร ที่หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ หลังจากเรือขนน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำ พร้อมลูกเรือ 15 คน หายไป เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. โดยพบว่า เรือทั้งหมดถูกนำไปจอดที่ประเทศกัมพูชา เพื่อหลบซ่อน และขายน้ำมันของกลางไปจำนวนมากที่ประเทศกัมพูชา คงเหลือเพียงบางส่วน ขณะที่ลูกเรือ 15 คน มีการผลัดเปลี่ยนกันขึ้นฝั่งไปพักผ่อนและบางส่วนเฝ้าเรือ



           นอกจากนี้ ยังพบการเปลี่ยนสีเรือกำไรเงิน 1 ลำ ที่เก๋งเรือและพื้นเรือจากสีแดง เป็นสีเขียว เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ และจะนำเรือไปใช้ใหม่ ส่วนเรืออีก 2 ลำ ยังไม่ทันดำเนินการเปลี่ยนรูปพรรณ เมื่อรู้ว่าเจ้าหน้าที่พบแหล่งกบดาน จึงนำเรือออกทะเลอย่างเร่งรีบ ทำให้มีลูกเรืออยู่บนเรือเพียง 8 คน จากทั้งหมด 15 คน โดยจับได้บนเรือเจพี 4 คน เรือดาวรุ่ง 1 และเรือกำไรเงินหรือซีฮอท 3 คน





          ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และเครือข่ายเรือประมง เพื่อให้ค้นหาเรือทั้ง 3 ลำ ที่ลอยอยู่กลางทะเล จนเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. เวลา 06.00 น. เรือประมงเครือข่าย พบเรือของกลาง 3 ลำ ลอยกลางทะเล พื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ หรือ EEC ห่างจากฝั่งสงขลา 90 ไมล์ทะเล เจ้าหน้าที่จึงส่งเรือตรวจการณ์ 3 ลำ ไปตรวจสอบ พบว่าเป็นเรือของกลางจริง มีคนเรือที่ตำหนิรูปพรรณตรงกับผู้ต้องหา จึงแสดงตัวเข้าจับกลุ่มและตรวจยึดเรือ โดยพบว่าเรือดาวรุ่ง มีสภาพพังเสียหายเดินเครื่องไม่ได้ มีการลากจูงอยู่กลางทะเล



           ในช่วงค่ำวันนี้ เจ้าหน้าที่กำลังนำเรือทั้ง 3 ลำ กลับเข้าฝั่งที่ท่าเทียบเรือกองกำกับการเจ็ด กองบังคับการตำรวจน้ำ จ.สงขลา เนื่องจาก สามารถเดินเรือได้เพียง 5 น็อต จึงทำให้ล่าช้า หลังจากนั้นจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คนมาสอบปากคำและทำบันทึกจับกุม และส่งตัวเข้าไปสอบสวนขยายผลที่กองบังคับการปราบปราม ด้วยเครื่องบิน ในวันที่ 18 มิ.ย.



           สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ตำรวจเชื่อว่า หวังทั้งเรื่องของน้ำมันของกลางและเรือเนื่องจากน้ำมันมีมูลค่า 3-4 ล้านบาท ส่วนเรือมีมูลค่ามากถึง 20 ล้านจึงเป็นเหตุผลที่ผู้ต้องหาพยายามดัดแปลงเรือของกลางจากเดิม เพื่อนำมาใช้ใหม่ ส่วนประเด็นที่เรือของกลางพบอยู่ในพื้นที่ของปัตตานี เนื่องจากว่าจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ของกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ลักลอบขายน้ำมันเถื่อน ผู้ต้องหาจึงนำเรือออกจากพื้นที่สัตหีบและมุ่งหน้ามายังบริเวณดังกล่าว ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับคนชื่อโจ้ ซึ่งปรากฏเป็นข่าวว่ามีความเชื่อมโยงกันนั้นหรือไม่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ



 



#เรือน้ำมันของกลาง



#ขายเขมร



 

ข่าวทั้งหมด

X