คลื่นสูง! เรือบรรทุกน้ำมันของกลาง เทียบท่าสงขลา ช้ากว่ากำหนดเดิม ย้ำตร.เกี่ยวข้องแน่นอน

17 มิถุนายน 2567, 12:00น.


          เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำ ที่หายจากท่าเรือตำรวจน้ำสัตหีบ ได้ติดต่อตำรวจน้ำเพื่อขอมอบตัวและส่งเรือคืนบริเวณอ่าวไทย ใกล้น่านน้ำประเทศมาเลเซีย และตำรวจน้ำจะนำเรือทั้ง 3 ลำมาเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือตำรวจน้ำสงขลาไม่เกินเที่ยงวันนี้



          เวลา 08.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(รองผบช.ก.) เดินทางขึ้นเครื่องบินที่กองบินตำรวจ หรือ บน.3 ไป จ.สงขลา เพื่อสอบปากคำลูกเรือที่ร่วมกันลัก เรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ โดยเปิดเผยก่อนขึ้นเครื่องว่า ยึด เรือของกลาง ไว้ได้แล้ว 3 ลำ อยู่ระหว่างการลากจูงเข้ามาเทียบท่าเรือสงขลา คาดว่าจะถึงฝั่งเวลาประมาณ 14.00 -15.00 น. ของวันนี้



          พล.ต.ต.พฤธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ (ผบก.รน.) ระบุว่า ตำรวจน้ำได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้านจนพบเรือ 3 ลำจอดบริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบน้ำมันบางส่วนหายไปและลูกเรือ 16 คนเหลือเพียง 8 คน



           นอกจากนี้ พบบริเวณตัวเรือมีความพยายามที่จะอำพรางเปลี่ยนแปลงสีของเรือน้ำมันของกลางอีกด้วย โดยกำหนดกรอบเวลาต้องให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ขณะนี้ มีความคืบหน้าไปมาก ยืนยันว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องแน่นอน อยู่ระหว่างสอบสวนว่ามีจำนวนกี่นาย  



          ส่วนบริเวณท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ จ.สงขลา เป็นจุดที่จะนำเรือทั้ง 3 ลำเข้าเทียบท่า เจ้าหน้าที่นำเรือของกลางบรรทุกน้ำมันเถื่อนสัญชาติเวียดนามที่เคยจับกุมตรวจยึดได้ก่อนหน้านี้ ออกไปจากพื้นที่ชั่วคราว ส่วนการขยายผลถึงผู้อยู่เบื้องหลังวงการหรือผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นตำรวจมีแนวทางการสืบสวนอยู่ ซึ่งต้องสอบปากคำซักถามรายละเอียดกับลูกเรือผู้ต้องหาก่อน



          สำหรับเรือของกลาง 3 ลำ ประกอบด้วย เรือเจ.พี. มีน้ำมันประมาณ 80,000 ลิตร ลูกเรือ 7 คน เรือซีฮอต บรรทุกน้ำมันประมาณ 150,000 ลิตร ลูกเรือ 6 คน และเรือดาวรุ่ง มีน้ำมันประมาณ 100,000 ลิตร ลูกเรือ 5 คน หายไปขณะนำเรือไปจอดหลบคลื่นลม เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน



          เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนทั้ง 3 ลำ เป็นเรือชุดเดียวกับเรือ 5 ลำที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 19 มีนาคม จนสามารถตรวจยึดน้ำมันดีเซลได้จำนวน 325,000 ลิตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเรือของกลางทั้ง 5 ลำไปจอดเก็บรักษาไว้ที่สะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ



            ส่วนการสอบสวนลูกเรือของเรือน้ำมันเถื่อน จำนวน 11 คน จาก 28 คน เข้าพบตำรวจ โดยรายงานตัวกับ พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผู้กำกับการกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก. ปอศ. ) โดยลูกเรือ ทั้ง 11 คน ปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ มีเพียง 1 คนที่สอบสั้นๆว่า "ผมอยู่ในเรืออย่างเดียว ผมไม่ได้ไปด้วย"



           พ.ต.อ.ชัชวาล เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการเรียกผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้ จากกรณี เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2567 ตำรวจน้ำ ตำรวจ ปอศ. จับกุมเรือ 5 ลำ ที่มีการบรรทุกน้ำมันเถื่อน ได้ที่บริเวณอ่าวไทย ใกล้เเท่นขุดเจาะน้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งในเรือทั้ง 5 ลำมี น้ำมันอยู่ในเรือ และมีลูกเรือ ทั้งหมด 28 คน ทั้งสัญชาติไทย เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา เเต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย ประมาณ 90% ทำหน้าที่เป็นลูกเรือ ควบคุมเรือ



          โดยในคดี หลักมีการเเจ้งข้อหาลูกเรือ ฐานร่วมกันพยายามนำเข้าหรือส่งออกของที่ยังไม่ผ่านวิธีทางศุลกากร,ฐานร่วมกันซ่อนเร้นพาไปเสียในทรัพย์(น้ำมัน) อันเป็นของเกี่ยวเนื่องในความผิด ตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ เเละ ร่วมกันบรรทุกของลักลอบหนีศุลกากรหรือมีไว้ซึ่งสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษี ตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต เบื้องต้น ทั้ง 28 คน ได้รับการประกันตัวไป คนไทยคนละ 1.5 แสน แรงงานต่างด้าวคนละ 1 แสน



          พ.ต.อ.ชัชวาล ระบุว่า ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้ง 28 คน โดยประสานไปยังทนายความ ได้รับการยืนยันว่าจะเดินทางมารายงานตัว 12 คน วันนี้จะดูว่าใครหนีไปบ้าง จากทั้งหมด เพื่อจะดูว่าต้องเพิกถอนประกันหรือไม่ และจะพิจารณาออกหมายจับกลุ่มที่ไม่มารายงานตัว



          ส่วนในวันนี้จะมีการสอบกรณีที่ผู้ต้องหาบางส่วนหลบหนีไปพร้อมของกลางหรือไม่ พ.ต.อ.ชัชวาล บอกว่า วันนี้จะเป็นการรายงานตัวอย่างเดียว การสอบนั้นจะต้องสอบร่วมกับอัยการ เพราะเป็นคดีนอกราชอาณาจักร



 



 



#เรือบรรทุกน้ำมัน



#ของกลาง



#โจ้ปัตตานี



 

ข่าวทั้งหมด

X