นิด้าโพล เผยผลสำรวจประชาชนสนับสนุนให้ปฏิรูปเสร็จก่อนเลือกตั้ง

31 พฤษภาคม 2558, 10:57น.


ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “การเลือกตั้ง การปฏิรูปและรัฐประหาร” สำรวจระหว่างวันที่ 27-28 พ.ค.2558 จากประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,250 หน่วยตัวอย่าง พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 71.28 ระบุผลลัพธ์ของการทำรัฐประหารโดย คสช. ดีกว่า คมช.เมื่อปี 2549 เพราะกล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ บ้านเมืองสงบเรียบร้อย มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน และจริงจัง จัดระเบียบสังคมได้ดี เป็นการทำงานเพื่อประเทศ มิได้เป็นการแสวงหาเพื่อประโยชน์ส่วนตน ลดการสูญเสียที่จะตามมาอันเนื่องมาจากการชุมนุม มีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม ดีกว่าตอนปี 2549 นอกจากนี้ยังเห็นว่า คสช. ทำรัฐประหารโดยไม่มีการสูญเสียหรือสูญเสียน้อยกว่า อีกทั้งยังมีบทเรียนจากปี 2549 ขณะที่ร้อยละ 18.08 ระบุมีผลลัพธ์เหมือนกัน เพราะการทำรัฐประหารและควบคุมอำนาจโดยทหาร ซึ่งต่างมีผลดี และผลเสียพอ ๆ กัน มีเพียงร้อยละ 7.20 ระบุว่าผลลัพธ์ของการทำรัฐประหารโดย คสช. แย่กว่า เพราะยังไม่เห็นผลที่ชัดเจน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ คมช. ยึดอำนาจแค่ไม่กี่เดือนก็คืนอำนาจให้กับประชาชนแล้ว อีกทั้ง คมช. ยังให้สิทธิและเสรีภาพความเป็นอิสระในการแสดงความคิดเห็นมากกว่านี้


ส่วนความมั่นใจที่มีต่อรัฐบาลชุดใหม่ ภายหลังการเลือกตั้งว่าจะสามารถเดินหน้ากระบวนการปฏิรูปประเทศต่อไปได้นั้น พบว่า ร้อยละ 31.28 ระบุไม่ค่อยมีความมั่นใจ ร้อยละ 24.64 ไม่มั่นใจเลย มีเพียงร้อยละ 19.12 ระบุมีความมั่นใจมาก โดยเหตุผลของผู้ที่ระบุว่าไม่ค่อยมีความมั่นใจ และไม่มีความมั่นใจเลย เนื่องจากไม่มั่นใจในตัวนักการเมืองที่จะเข้ามาบริหารงาน ส่วนใหญ่ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองมากกว่า ถึงจะเป็นรัฐบาลชุดใหม่ก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ปัญหาบางอย่างยังต้องการได้รับการแก้ไข ต่างฝ่ายต่างมีความคิดที่เป็นของตัวเอง และมีความหลากหลาย


สำหรับความมั่นใจของประชาชนที่มีต่อประเทศไทยหลังการเลือกตั้งว่าจะไม่กลับไปสู่วังวนเดิมอีก คือ มีคนใช้อำนาจในทางที่ผิด มีความขัดแย้ง และการรัฐประหารโดยฝ่ายทหารพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 35.36 ระบุไม่ค่อยมีความมั่นใจ รองลงมาร้อยละ 31.60 ไม่มีความมั่นใจเลย มีเพียงร้อยละ 12.40 ระบุว่ามีความมั่นใจมาก โดยเหตุผลที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจ และไม่มีความมั่นใจเลย คือยังมีการเลือกปฏิบัติ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ยังคงมีความขัดแย้งภายใต้ความสงบอยู่ อีกทั้งรัฐบาลที่เข้ามาส่วนใหญ่ต้องการแสวงหาผลประโยชน์มากกว่าทำเพื่อประเทศ รัฐบาลที่จะเข้ามาก็เหมือนเดิม เป็นปัญหาเรื้อรังที่ไม่สามารถแก้ไขได้เกิดเป็นวงจรเช่นนี้เรื่อยไป


ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 68.56 อยากให้มีการปฏิรูปให้เรียบร้อยก่อนการเลือกตั้ง เพราะระบบเก่าที่ผ่านมายังมีปัญหาต่าง ๆ ที่ควรได้รับกาแก้ไขใหม่ เพื่อเป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้า ควรมีการเปลี่ยนแปลงการปฏิรูปประเทศให้มั่นคงก่อนเพื่อปูทางให้รัฐบาลชุดต่อไปสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น และลดปัญหาความขัดแย้งที่จะตามมา การเลือกตั้งสามารถทำเมื่อไหร่ก็ได้ มีเพียงร้อยละ 24.00 ระบุว่าควรมีการเลือกตั้งโดยเร็วก่อนแล้วค่อยให้รัฐบาลใหม่เดินหน้ากระบวนการปฏิรูปประเทศ เพราะควรเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์ที่ดีให้กับชาวต่างชาติ ควรมีรัฐบาลที่เป็นทางการก่อน แล้วให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาปฏิรูปประเทศ และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ


...
ข่าวทั้งหมด

X