บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดตัว CEO คนใหม่ ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง แถลงวิสัยทัศน์ ปรับกลยุทธ์ เดินหน้าด้วยแนวคิด "Together For Sustainable Thailand, Sustainable World" พร้อมเตรียมทบทวนธุรกิจในเครือต้นน้ำยันปลายน้ำเพื่อดำเนินธุรกิจบนหลัก "ความยั่งยืนอย่างสมดุล" โดยยังคงเป้าหมายด้านความยั่งยืน เน้นการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน สร้างการเติบโตทางธุรกิจ ควบคู่กับการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี พ.ศ. 2593
หลังจากเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2567 ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้แถลงข่าวพร้อมประกาศทิศทางกลยุทธ์ ทิศทางการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการในวันนี้ (14 มิ.ย.2567) และกำหนดการทบทวน (Revisit) ทุกธุรกิจในเครือเพื่อปรับแผนให้สอดคล้องกับเป้าหมาย "ความยั่งยืนอย่างสมดุล" คาดว่ารายละเอียดจะเป็นรูปธรรมในช่วงกันยายน-ตุลาคมนี้ ซึ่งได้แก่ การทบทวนเรื่องการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติ และตัวองค์กร
หลักการในการตัดสินใจพิจารณาทบทวนธุรกิจใดๆ จะใช้มุมมองที่ว่า ธุรกิจนั้นๆ ถ้าไปทำขนาดใหญ่แล้วจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า มี "Substance" มีความสำคัญต่อผลประกอบการ เป็นประโยชน์ต่อสังคม ก็น่าจะดีกว่าการลงทุนขนาดเล็กที่อาจจะต้องใช้ทรัพยากรมาก เพราะทรัพยากรในปตท. ก็มีจำกัด
ในด้านมุมมองราคาหุ้น ดร.คงกระพัน ให้ความมั่นใจว่า ผู้ถือหุ้นต้องการ "ความชัดเจน" (Clarity) ถึงทิศทางการทำงาน และปตท. ก็จะสร้างความชัดเจนในการทำงาน เพื่อสร้างความมั่นใจได้ โดยมีทิศทางและกลยุทธ์ของกลุ่มปตท. มุ่งเน้น 5 แนวทาง ดังนี้
1. ยกระดับความสามารถทางการแข่งขันให้กับธุรกิจที่มีอยู่เดิม (Competitiveness Enhancement : Existing Business) ทำธุรกิจให้แข็งแรง ปรับ Portfolio โดยหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพ พร้อมต่อยอดสร้างการเติบโตในเรื่องที่ถนัด มีธุรกิจหลักสองกลุ่ม แยกเป็น กลุ่ม Hydrocarbon and Power เช่น ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ พลังงานทางเลือกต่างๆ และกลุ่ม Non-Hydrocarbon Business เช่น EV/ Life Science & Healthcare/ Digital
2. สร้างการเติบโต หาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ (Growth: New Business & Opportunity) โดยเฉพาะด้านความยั่งยืน คือ ธุรกิจไฮโดรเจนและคาร์บอน (Hydrogen and Carbon Business Integration Strategy) สร้างการเติบโตต่อยอดจากเป้าหมาย Decarbonization มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แบบบูรณาการ
3. สร้างความชัดเจนในแนวทางความยั่งยืน (Sustainability) ทุกมิติ ด้วยการบูรณาการเข้าไปในธุรกิจ ผสานการบริหารจัดการ Portfolio และ Net Zero เข้าด้วยกันทั้งกลุ่ม
4. สร้างปัจจัยที่ทำให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม (Enablers for Transformation) ได้แก่ สร้างประสิทธิภาพการดำเนินงานที่เป็นเลิศ (Operational Excellence) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถ เนื่องจากมีปัจจัยภายนอกต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ จึงควรมุ่งเน้นทำสิ่งที่ควบคุมได้อย่างเข้มข้น ต้องสร้างความแข็งแกร่งจากภายใน (Build core resilience) ลดต้นทุน ยกระดับ Operation & Efficiency ด้วยการนำเทคโนโลยี ดิจิทัล และ AI มาประยุกต์ใช้ โดยมีแผนงานและเป้าหมายที่ชัดเจน และขยายผลทั่วทั้งกลุ่ม ปตท. อีกทั้ง ต้องทำ Lean Organization ร่วมกับ Digital Transformation ซึ่งต้องเริ่มในวันที่องค์กรยังแข็งแรง จัดลำดับความสำคัญ เริ่มทำโครงการที่เห็นผลลัพธ์เร็ว เพื่อให้เกิดยอมรับในทุกระดับ และต้องสร้างความเข้มแข็งด้าน Culture ปลูกฝังให้พนักงานกล้าที่จะเปลี่ยนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
5. รักษาพื้นฐานสำคัญ มุ่งธรรมาภิบาลและการกำกับกิจการที่ดี บริหารองค์กรด้วยความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล ยึดถือ Way of Conduct อย่างเคร่งครัด รวมถึงการบริหารบุคลากร ด้วยความยุติธรรม โปร่งใส สร้าง Ecosystem ส่งและคนเก่งให้เติบโตอย่างเหมาะสม รวมถึงการมีความเป็นเลิศทางด้านการเงิน (Financial Excellence) ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการดำเนินธุรกิจ
…
#ปตท
#PTT
รัฐสภาสหรัฐฯ ใกล้เห็นชอบตัดงบการกระจายเสียงสาธารณะและความช่วยเหลือต่างประเทศ
...
รฟท.เผย โครงการไฮสปีด 3 สนามบิน ยังรออัยการสูงสุดตรวจสอบร่างแก้ไขสัญญา
...
ก.แรงงาน เตรียมแจ้งความเอาผิดแฮกเกอร์ เปลี่ยนหน้าเว็บกระทรวง
...
ข่าวทั้งหมด
