กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)และรัฐบาลศรีลังกา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของ IMF มีมติเมื่อวานนี้(12 มิ.ย.67)ให้อนุมัติโครงการกู้เงินครั้งที่ 2 มูลค่า 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับศรีลังกา ระบุว่า ภายใต้เงื่อนไขการอนุมัติเงินกู้ในโครงการนี้ รัฐบาลศรีลังกา ตกลงที่จะผลักดันนโยบายปฏิรูปโครงสร้างรัฐวิสาหกิจของศรีลังกาให้เดินหน้าไปจนกว่าจะกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง ขณะเดียวกัน การอนุมัติดังกล่าวมีผลทำให้ IMF ต้องปล่อยเงินกู้งวดที่ 3 จำนวน 337 ล้านดอลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเงินกู้ครั้งที่ 1 มูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯสำหรับศรีลังกาด้วย
IMF ระบุในแถลงการณ์ว่า การปฏิรูปโครงสร้างของรัฐวิสาหกิจต่างๆของศรีลังกา ตามเงื่อนไขการอนุมัติเงินกู้จาก IMF ในช่วงที่ผ่านมา ช่วยทำให้เศรษฐกิจของศรีลังกากลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง เงินเฟ้อยังคงอยู่ในอัตราต่ำ การจัดเก็บรายได้จากภาษีของรัฐเริ่มดีขึ้น ขณะที่เงินคงคลังของรัฐเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีสัญญาณชี้ให้เห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่ IMF ยอมรับว่าเศรษฐกิจของศรีลังกายังอ่อนแอและการชำระหนี้ให้กับ IMF ในระยะยาวยังทำได้ลำบากมาก
นายอาลี ซาบรี รัฐมนตรีต่างประเทศของศรีลังกา ระบุว่า การที่ IMF อนุมัติโครงการเงินกู้ครั้งที่ 2 เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า รัฐบาลศรีลังกามุ่งมั่นในการเดินหน้าโครงการปฏิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยให้อนาคตของชาวศรีลังกาทุกคน เจริญก้าวหน้าและมั่นคงในระยะยาว
IMF อนุมัติโครงการเงินกู้ครั้งที่ 1 สำหรับศรีลังกา ในเดือน มี.ค.2566 หรือ 1 ปีหลังศรีลังกา ซึ่งมีประชากร 22 ล้านคนประสบวิกฤตทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เงินคงคลังของรัฐบาลศรีลังกา ลดลงอย่างมากจนไม่สามารถสั่งซื้ออาหาร ยารักษาโรคและเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ ทำให้เกิดการประท้วงจนประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา หนีออกนอกประเทศและยอมลาออก ซึ่งต่อมา รัฐสภาของศรีลังกาลงมติแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแทน
#IMFอนุมัติ
#โครงการกู้วิกฤตศรีลังกา