นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม หารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พลตำรวจโท ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 (ผบก.สส.ภ.2) และ พันตำรวจเอก ปัญญา ดำเล็ก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด (ผกก.สภ.มาบตาพุด) ตรวจสอบเอกสารหลักฐานในการดำเนินคดี กรณีโรงงานเก็บกากสารเคมี บริษัท วิน โพรเสส จำกัด อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง และโรงงานในเครือ บริษัท เอกอุทัย จำกัด เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางในการคัดแยกเอกสารหลักฐาน ที่ยึดมาจากบริษัท วิน โพรเสส และ บริษัท เอกอุทัย ซึ่งเป็นแฟ้มเอกสารจำนวนมากกว่า 1,000 แฟ้ม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การจัดส่งพยานเอกสารเข้าสู่สำนวนคดี เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกรมโรงงานอุตสาหกรรมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ สร้างความมั่นใจให้ประชาชนร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการโรงงานที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ นายจุลพงษ์ มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรอุทัย และอำเภออุทัย นำหมายค้นศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจค้นที่ดินและบ้านเลขที่ 75/3 หมู่ที่ 3 ตำบลเสนา อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 พบว่า สถานที่ดังกล่าว บริษัท เอกอุทัย จำกัด ได้ทำสัญญาเช่ากับเจ้าของที่ดินไว้ตั้งแต่ปลายปี 2564 โดยระบุว่าจะเช่าเพื่อเป็นที่พักรถบรรทุกขนส่ง สำนักงานชั่วคราว และเก็บสินค้าของบริษัท เอกอุทัย แต่ปัจจุบัน เจ้าของที่ดิน ได้บอกเลิกสัญญาเช่าไปแล้ว เนื่องจาก บริษัท เอกอุทัย จำกัด ได้กระทำผิดเงื่อนไขในสัญญาหลายข้อ โดยเจ้าของที่ได้มีการฟ้องเป็นคดีเเพ่งต่อบริษัท เอกอุทัย จำกัด ให้ชดใช้ค่าเช่าและค่าเสียหาย รวมทั้งฟ้องขับไล่ให้ออกจากพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการบังคับคดี ซึ่งข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาได้มีการกล่าวไว้ด้วยว่า บริษัท เอกอุทัย จำกัด ในฐานะจำเลย ได้มีการนำวัตถุและสารเคมีอันตรายมาฝังกลบในที่ดินที่เช่า
จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่า ในพื้นที่ดังกล่าวยังคงมีการนำรถบรรทุก ส่วนพ่วงรถบรรทุก รถยนต์ และอุปกรณ์เครื่องจักร เข้ามาจอดไว้จำนวนหลายคันและมีร่องรอยลักษณะที่เป็นการประกอบกิจการโรงงานซ่อมแชมรถยนต์ และจากการนำรถเเบ็คโฮมาขุดในบริเวณด้านหลังที่ดิน ก็ตรวจพบว่า มีการลักลอบนำกากอุตสาหกรรมหรือสารเคมีอันตรายมาฝังกลบในพื้นที่จริง ซึ่งเข้าข่ายอาจเป็นการประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 ลำดับที่ 95(1) และลำดับที่ 105 ตามลำดับ ทางอำเภออุทัย ได้มีการประสานนำรถแบ็คโฮ มาขุดดินตรวจค้นในบริเวณที่ซึ่งคาดว่ามีการลักลอบฝังกลบสารเคมีอันตรายจำนวน 3 จุด โดยขณะทำการขุดดิน พบกากตะกอนสีดำ สีส้ม และมีกลิ่นเหม็นฉุนลอยขึ้นมา กรมโรงงานฯ จึงได้มีการเก็บตัวอย่างกากตะกอนดังกล่าวเพื่อนำมาตรวจวัดวิเคราะห์ รวมถึงเก็บตัวอย่างกรดเสื่อมสภาพในถัง IBC และกากสีในถังเหล็กขนาด 200 ลิตร มาตรวจ วัดวิเคราะห์ไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน กฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย ประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจนถึงที่สุดต่อไป
#เร่งสำนวนคดี
#วินโพรเสส
#เอกอุทัย
CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ กรมโรงงานอุตสาหกรรม