หลังจาก ผลเอ็กซิตโพล ในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรป ระบุว่า พรรคเนชั่นแนลแรลลี (RN) ฝ่ายขวาจัด ได้คะแนนโหวตเป็นอันดับ 1 เกือบ 32% ได้เก้าอี้ในรัฐสภายุโรปไปถึง 30 ที่นั่ง มากกว่ากลุ่มพันธมิตรที่นำโดยพรรคเรอแนซ็องส์ ของนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ 15.2% ส่วนอันดับ 3 คือ พรรคสังคมนิยม ตามมาติดๆ ที่ 14.3%
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายมาครง ตัดสินใจที่สร้างความประหลาดใจ ด้วยการประกาศยุบสภาและเตรียมจัดการเลือกตั้งใหม่ หลังพรรคของเขาพ่ายแพ้พรรคฝ่ายขวาจัด จะมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ วันที่ 30 มิ.ย.67 เป็นการลงคะแนนรอบแรก ตามด้วยรอบ 2 ในวันที่ 7 ก.ค.67 ไม่กี่สัปดาห์ก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปารีส นายมาครง กล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าว เป็นการแสดงให้เห็นว่าชาวฝรั่งเศสจะตัดสินใจเลือกผู้แทนอย่างเป็นธรรมที่สุด
การแถลงของนายมาครง เกิดขึ้นหลังนายจอร์แดน บาร์เดลลา หัวหน้าพรรคเนชั่นแนลแรลลี ขึ้นกล่าวปราศรัยฉลองชัยชนะต่อหน้าผู้สนับสนุนที่สำนักงานใหญ่ของพรรค พร้อมเรียกร้องให้นายมาครง ยุบสภา เนื่องจากส่วนต่างคะแนนระหว่างทั้ง 2 พรรคนั้นมากแสดงให้เห็นการไม่ยอมรับในตัวประธานาธิบดีผู้นี้
ปัจจุบันพรรคเรอแนซ็องส์ของนายมาครง มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 169 คน จากทั้งหมด 577 คน พรรคเนชั่นแนลแรลลี มี 88 คน
ด้านนางมารีน เลอ แปน เคยแพ้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ให้แก่นายมาครง ถึง 2 ครั้ง ในปี 2560 กับ 2565 ก่อนที่พรรคเนชั่นแนลแรลลีที่เธอสังกัดจะมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ออกมาต้อนรับการตัดสินใจยุบสภาของนายมาครง และประกาศว่าพร้อมจะรับมอบอำนาจหากชาวฝรั่งเศส มึความเชื่อใจ
#ฝรั่งเศส
#ยุบสภา
#เตรียมเลือกตั้งใหม่
แฟ้มภาพ