*ไทย ยกระดับความร่วมมือกับประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกเน้นการค้า ลงทุน ท่องเที่ยว*

การประชุมร่วมระหว่างไทยกับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนที่ยั่งยืน ครั้งที่ 2 เริ่มต้นขึ้นแล้วในวันนี้และวันพรุ่งนี้ นายนรชิต สิงหเสนี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า การประชุมในปีนี้เป็นครั้งที่ 2 ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยถือโอกาสหลังจากการประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิกหรือ เอสแคป เมื่อวันพฤหัสฯ เสร็จสิ้น จึงได้เชิญนายกรัฐมนตรีของประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกเข้าร่วมประชุมต่อ เมื่อปีที่แล้วได้หารือร่วมกันและพัฒนาความร่วมมือใน 7 ด้านทั้งการให้ทุนการศึกษา การท่องเที่ยว การค้าและการลงทุน โดยพบว่าปีที่แล้วประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกให้ความสนใจด้านการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ เนื่องจากประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งและเป็นสิ่งที่สร้างรายได้สำคัญแก่ประเทศ เช่น ตองกา ฟิจิ หมู่เกาะคุก และสาธารณรัฐนาอูรู เป็นต้น กระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญประเทศต่างๆเข้าร่วมการสัมมนาท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้ระบบการจัดการท่องเที่ยวของไทยเพิ่มด้วย

การประชุมวันนี้คาดว่าจะเน้นขยายการเพิ่มปริมาณการค้า การท่องเที่ยวและการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น  พร้อมทั้งประเทศในหมู่เกาะ สนใจที่จะหารือร่วมกันสานความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดมากขึ้น  โดยต้องมีกลไกสร้างการติดต่อเพิ่มเติม ทั้งมองว่าวัฒนธรรมหรือภาษาไม่ควรเป็นอุปสรรคในการติดต่อกัน

นอกจากนี้ในปีนี้จะมีการยกระดับการพัฒนาความร่วมมือจาก 7 เป็น 11 ด้าน อย่างไรก็ดี สิ่งที่ประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกต้องการคือการมุ่งเน้นการพัฒนาด้านการเกษตรและการประมง อุตสหกรรมการท่องเที่ยวและการหามาตรการพัฒนาประชาชนในประเทศของตัวเอง โดยต้องการเรียนรู้จากไทยตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลัก ซึ่งในวันพรุ่งนี้ไทยก็จะเชิญผู้นำของทุกประเทศไปเยี่ยมชมโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ฉะเชิงเทราและพาไปชมงานโอท็อป เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศด้วย อย่างไรก็ดีสิ่งที่ประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกกังวลคือ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่ิอง ซึ่งส่งผลต่อการท่องเที่ยวและความมั่นคงในประเทศ ซึ่งจะมีการหารือกันในที่ประชุมด้วย

ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร