การจัดเก็บรายได้ และ การกระตุ้นเศรษฐกิจ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เปิดเผยว่า นัดหารือกับนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เรื่องการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และกรมสรรพากร ว่าส่วนไหนจะสามารถจัดเก็บรายได้ ได้เพิ่มอีก หรือส่วนไหนจะต้องเร่งทำเพื่อทำให้รายได้ของประเทศเพิ่มมากขึ้น ขอให้รอการประชุมก่อน ไม่น่าจะพูดคุยเรื่องของดิจิทัลวอลเล็ต
สถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไตรมาส 4 ดีขึ้นอย่างแน่นอน และดีขึ้นมาก ตอนนี้กำลังดูไตรมาส 3 ว่าจะทำอย่างไรให้ดีขึ้นกว่าเดิมอีกหน่อย ขณะนี้ในส่วนของเงินงบประมาณก็ได้เริ่มจ่ายไปได้แล้ว ซึ่งวันนี้ก็คงได้มีการพูดคุย ว่ามีอุปสรรคปัญหาอะไรในการผันเงินลงไปใช้จ่าย เพื่อให้ใช้จ่ายเงินได้เร็วที่สุด สถานการณ์การเมืองขณะนี้มีอะไรน่าเป็นห่วงหรือไม่ เพราะจะต้องมีการพิจารณาร่างราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 นายกฯ กล่าวว่า ทีมงานเตรียมตัวอยู่ ประมาณวันที่ 19- 21 มิ.ย.67 ขณะนี้ได้เตรียมพร้อมไว้แล้วไม่มีอะไรน่าห่วง
แนวโน้มรายได้ของประเทศจะมีเพียงพอโดยไม่ต้องกู้เงินเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนงานอยู่ แต่ตอนนี้ผ่านไปครึ่งปีแล้วก็ต้องมาทบทวนว่าตรงไหนที่จะต้องลด ตรงไหนจะต้องเพิ่ม และจะต้องมาดูเรื่องของการบริหารจัดการรายจ่ายให้ดี ไม่ว่าจะเป็นมาตรการสนับสนุนทางภาษี ที่ให้นักลงทุนต่างประเทศมาลงทุน ต้องดูว่าตรงไหนจะทำอะไรได้บ้าง เพราะเรื่องรายได้ถือเป็นเรื่องสำคัญ
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า อีกประมาณ 2-3 สัปดาห์จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม นายกฯ กล่าวว่า กระทรวงการคลัง กำลังดูแผนเพิ่มเติมอยู่ หลังจากได้ประชุมคณะทำงานที่เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจว่ามีปัญหาอะไรและจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างไร ทำให้นัดมาคุยเพิ่มเติมในวันนี้ และเชื่อว่า กระทรวงการคลังกับหลายหน่วยงานกำลังดำเนินการอยู่
#นายกฯหารือคลัง
#จัดเก็บรายได้
แฟ้มภาพ รัฐบาลไทย