'นพ.เฟาซี'ชี้แจง ไม่เคยเสนอทำวิจัยต้นตอโควิดในจีน ปฏิเสธจีนปล่อยโควิดจากห้องเเล็บ

         นพ.แอนโทนี เฟาซี อายุ 83 ปี อดีตผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ ชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯที่รับผิดชอบการไต่สวนต้นตอของโรคโควิด-19(House Oversight and Accountability Select Subcommittee on the Coronavirus Pandemic)ในอาคารสภาคองเกรส กรุงวอชิงตันดี.ซี.เมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.67) ปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่ว่า ประเทศจีนจงใจปล่อยเชื้อไวรัสที่เป็นต้นตอของโรคโควิด-19 จากห้องแล็บเมืองอู่ฮั่นทางภาคกลางของจีน ทั้งยอมรับว่า เขาไม่เคยเสนอแนะให้มีการศึกษาวิจัยต้นตอของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีน

         การชี้แจงของ นพ.เฟาซี เป็นการชี้แจงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่คณะอนุกรรมการของสภาฯเปิดการไต่สวนลับในเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนม.ค.67 นพ.เฟาซี ย้ำว่า ทฤษฎีที่เขาเชื่อว่าเป็นไปได้มากที่สุด คือ เชื้อไวรัสที่เป็นต้นเหตุของโรคโควิด-19 แพร่จากสัตว์มาสู่คน ระบุว่า เขามีความเชื่อมั่นและเคยพูดมาหลายครั้งแล้วว่า เขาไม่ให้น้ำหนักกับแนวคิดทฤษฏีสมคบคิดที่ว่า มีการปล่อยเชื้อไวรัสจากห้องแล็บของจีน

         นพ.เฟาซี กล่าวว่า ทฤษฎีสมคบคิด คือ รูปแบบหนึ่งของการบิดเบือนข้อเท็จจริง เช่น โยงว่ามีการปล่อยเชื้อไวรัสจากห้องแล็บ พร้อมยกตัวอย่างการทำหน้าที่ของตนว่า รับหน้าที่เสมือนกับพนักงานสอบสวน CIA เหมือนในภาพยนตร์แนวสืบสวนเรื่อง เจสัน บอร์น(Jason Bourne) ซึ่งภาคไทยคือ เจสัน บอร์น ยอดจารชนคนอันตราย และต้องบอกกับหน่วย CIA ว่า พวกเขาไม่ควรพูดในประเด็นว่า มีการแพร่เชื้อไวรัสจากห้องแล็บ อีกต่อไป

          ก่อนหน้านี้ นพ.เฟาซี เกษียณอายุเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 65 หลังจากทำงานกับสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ(NIH) 54 ปี ในจำนวนนี้ รวมถึงทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการของสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ 38 ปี

#สภาคองเกรสหรัฐ

#ไต่สวนหมอเฟาซี