*ไทย-มาเลย์-อินโดฯร่วมส่งทีมค้นหาโรฮิงญา/เมียนมาร์ พร้อมดูแลระยะยาว*

29 พฤษภาคม 2558, 19:42น.


หลังการจัดประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย นายนรชิต สิงหเสนี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า การประชุมวันนี้มีการหารืออย่างสร้างสรรค์ และถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สำหรับการประชุมเพียงหนึ่งวัน ซึ่งสามารถนำไปสู่ข้อสรุปได้ โดยไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ยืนยันว่าจะส่งทีมค้นหาและกู้ภัยต่อไป ส่วนไทยก็ประกาศชัดเจนว่าจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และหากกลุ่มผู้อพยพชาวโรฮิงญาป่วยก็อนุญาตให้ขึ้นเรือที่จัดไว้เป็นพิเศษของกองทัพไทย 2 ลำ



ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ประกอบด้วย การช่วยชีวิตผู้อพยพทางเรือ การปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ และพัฒนาในระยะยาว โดยนำการพัฒนาเข้าไปสู่ประเทศต้นทาง ซึ่งเมียนมาร์ก็ยินดีที่จะเข้าไปช่วยพัฒนา โดยมีเป้าหมายระยะยาวว่าไม่ให้คนต้องหนีออกมาอีก ให้ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข มีงานทำ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ได้อนุมัติด้วยวาจา ให้สหรัฐฯบินเหนือน่านน้ำไทยได้ โดยมีระยะเวลา 1 ปี ซึ่งรายละเอียดข้อตกลงขึ้นอยู่กับฝ่ายไทย เบื้องต้นยังไม่ตัดสินใจให้สหรัฐฯเข้ามาใช้ฐานทัพอู่ตะเภา หรือที่ภูเก็ต ประกอบกับขณะนี้ฐานการบินของสหรัฐฯอยู่ในมาเลเซียแล้ว ทุกเรื่องต้องอยู่ในกติกาที่กำหนดของไทย



สำหรับความช่วยเหลือด้านการเงิน องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ไอโอเอ็ม) ได้ขอความช่วยเหลือเป็นเงิน 26 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อแก้ปัญหาผู้อพยพทางเรือ โดยสหรัฐฯประกาศบริจาค 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ออสเตรเลียจะเพิ่มความช่วยเหลืออีก 5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ให้กับรัฐยะไข่ของเมียนมาร์ และเมืองค็อกบาซาร์ในบังคลาเทศ ส่วนญี่ปุ่นจะรีบพิจารณาเพิ่มความช่วยเหลือ และสวิตเซอร์แลนด์ประกาศจะให้ความช่วยเหลือในด้านความร่วมมือด้านเทคนิค โดยเฉพาะการโยกย้ายถิ่นฐาน



ขณะที่นางแอนน์ ซี. ริชาร์ด ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายประชากร ผู้ลี้ภัยและการย้ายถิ่น  ของสหรัฐฯ ระบุว่า การโยกย้ายถิ่นฐานไม่ใช่ทางออกทางแรกและทางเดียวสำหรับวิกฤตในครั้งนี้ หากต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงในประเทศต้นทาง ทำให้ประชาชนไม่ต้องรู้สึกต้องการอพยพหลบหนี จนตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์



 



ผู้สื่อข่าว : สมจิตร์ พูลสุข 

ข่าวทั้งหมด

X