อดีตนายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโกซิตี้ เตรียมขึ้นเป็นปธน.หญิง คนแรกของเม็กซิโก

         เม็กซิโกจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวานนี้ (2 มิ.ย.67) มีผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกว่า 98 ล้านคน เพื่อเลือกตั้งสส.และสมาชิกสภาท้องถิ่น โดยรวมแล้วมีการชิงชัยกันมากกว่า 20,000 ตำแหน่ง โดยมีผู้สมัครประมาณ 70,000 คน ที่แย่งชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิก นายกเทศมนตรี และผู้ว่าการรัฐ มีรายงานทาง CNN ว่า ทั้งพรรคโมเรนา ของ นางคลาวเดีย เชนบัม ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรครัฐบาล และนางโซชิตล์ กัลเวซ จากพรรคเนชันแนล แอ็คชัน พรรคแกนนำฝ่ายค้าน ต่างฝ่ายต่างอ้างชัยชนะในการเลือกตั้ง ถึงแม้ว่าคณะกรรมการจากสถาบันการเลือกตั้งแห่งชาติ(INE) อยู่ระหว่างการนับคะแนน และเริ่มประกาศผลเลือกตั้งในคืนนี้(3 มิ.ย.67)ระหว่างเวลา 22.00น.ถึงเวลา 23.00น.

         ล่าสุด INE นับคะแนนเสร็จร้อยละ 13.9 พร้อมเผยแพร่ผลคะแนนเบื้องต้น นางเชนบัม มีคะแนนนำร้อยละ 57.6 ขณะที่นางกัลเวซ ตามมาเป็นอันดับที่ 2 ร้อยละ 29.8 ส่วนนายจอร์จ อัลวาเรซ เมย์เนซ จากพรรคซิติเซนต์ มูฟเมนท์ อยู่ในอันดับที่ 3 ร้อยละ 10.1 ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้สนับสนุนของนางเชนบัม เริ่มรวมกลุ่มกันที่บริเวณจัตุรัสโซคาโลในย่านใจกลางกรุงเม็กซิโกซิตี้ เพื่อรับฟังการประกาศผลยืนยันว่านางเชนบัม ชนะเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ

         ก่อนหน้านี้ นายมาริโอ เดลกาโด หัวหน้าพรรคโมเรนา กล่าวว่า ผลเอ็กซิทโพล ที่พรรคจัดทำ ชี้ว่า นางเชนบัม ผู้สมัครของพรรคและอดีตนายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโกซิตี้ ชนะเลือกตั้ง และจะก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ โดยแต่นางกัลเวซ อ้างว่าพรรคของเธอชนะการเลือกตั้ง พร้อมทั้งขอให้ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ผู้นำคนปัจจุบัน จากพรรคโมเรนา ยอมรับคะแนนเสียงของประชาชน

         การแถลงของทั้งสองพรรคมีขึ้นหลังจากนายคลาวดาลูเป ทัดเด ซาวาลา ประธาน INE ขอให้ทุกพรรคการเมืองเคารพกติกาการเลือกตั้งและยอมรับผลการเลือกตั้งอย่างมีวุฒิภาวะและความรับผิดชอบ

         ก่อนหน้านี้ เกิดเหตุรุนแรง เช่น มีผู้สมัครเลือกตั้งถูกมือปืนจากพรรคคู่แข่งลอบสังหารอย่างน้อย 38 ราย ในจำนวนนี้ รวมถึง 2 รายในเมืองโคโยมีปัน(Coyomeapan) และเมืองทลาปานาลา(Tlapanala) รัฐปวยบลา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเมื่อวานนี้ นับเป็นการเลือกตั้งที่มีผู้สมัครเลือกตั้งเสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองเม็กซิโก

#การเลือกตั้งเม็กซิโก

CR:BBC,CNN