นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุจส. 100 ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ระดมกำลัง ตามหา 'จิงโจ้แดง' หลุดจากสวนสัตว์เชียงใหม่ กันอย่างเต็มที่ ทราบว่า กระโจนพุ่งออกมาจากกรง ตอนให้อาหาร เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ก็พยายามไล่จับกัน และหลุดออกมาที่ประตูด้านหน้าและวิ่งออกไปด้านนอก ได้จัดชุดลาดตระเวน ช่วยกันตาม จากคลิปที่เห็นตรงสถานีวัดความสั่นสะเทือน จนท.ตามรอยเข้าไปพบว่าเข้าไปในพท.ป่าใกล้เคียงชุมชน พบรอยใกล้ลำห้วย อยู่ในเขตอุทยานเข้าไปในพท.ป่า ประมาณ 2กม. ตอนนี้ใช้จนท.40คน แบ่งชุดลาดตระเวน ออกเป็น2ชุด พยายามสโคพพื้นที่ให้แคบลง เพื่อค้นหาให้พบ สิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องระวัง เนื่องจากสัตวแพทย์บอกว่าจิงโจ้มีนิสัยขี้ตกใจ กล้ามเนื้ออาจช็อก จากการตกใจได้
เบื้องต้นได้ใช้โดรนบินค้นหาแล้ว แต่เนื่องจากฝนตก ต้นไม้ปกคลุมจึงมองไม่เห็น เครื่องจับความร้อนก็จับไม่ได้เพราะตัวเล็ก ไม่กังวลว่าจะถูกสัตว์ป่าทำร้ายแต่กลัวสุนัขจรจัดทำร้ายมากกว่า แนะนำว่าหากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ดีกว่า อย่าไปจับเอง ด้วยนิสัยขี้ตกใจ ยิ่งทำให้ยากในการค้นหาตอนนี้ต้องการเห็นตัวก่อน จึงจะประสานให้นสพ. เข้าไปยิงยาสลบ เชื่อว่ายังอยู่ในพื้นที่ป่าของเขตอุทยาน
ก่อนหน้านี้ นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้แถลงว่า เหตุเกิดเมื่อ เวลา 07.50 น. จิงโจ้แดงเพศเมียได้หลุดออกจากส่วนจัดแสดง จากบริเวณคอกกักด้านหลัง สอบถามเจ้าหน้าที่ผู้เลี้ยงทราบว่า จิงโจ้แดง อายุ 2 ปี เดินสวนทางกับพนักงานที่กำลังจะเปิดประตูคอกกักเข้าไปในส่วนจัดแสดง หลังจากนั้น ได้กระโดดไปด้านหลังเข้าสู่ถนนด้านหน้าส่วนจัดแสดงบริเวณลิงไทย และโซนสัตว์ออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ได้ติดตามไปเป็นระยะ ๆ ทำการกั้นบริเวณ แต่จิงโจ้แดงได้กระโดดและวิ่งออกนอกสวนสัตว์เชียงใหม่ วิ่งขึ้นดอยสุเทพตามเส้นทางถนน เข้าหมู่บ้านห้วยแก้ว ไปยังสถานีวัดความสั่นสะเทือน จังหวัดเชียงใหม่ กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ
ล่าสุดได้เน้นย้ำผู้ช่วยผู้อำนวยการ หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างาน ที่รับผิดชอบให้ทำงานด้วยความละเอียด รอบคอบ มากยิ่งขึ้น ส่วนจิงโจ้แดงที่หลุดไป จะพยายามค้นหาอย่างเต็มกำลังความสามารถของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้ตัวจิงโจ้แดงเพศเมียตัวนี้กลับมา
เบื้องต้น สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้รายงานไปยังองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นที่เรียบร้อย พร้อมได้รับคำสั่งให้ติดตามอย่างต่อเนื่องด้วยการทำงานที่ปลอดภัยและละเอียดรอบคอบต่อไป
ทางด้านสัตวแพทย์หญิง กรรณิกา จันทรังษี รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์วิจัยสุขภาพสัตว์ กล่าวว่า สำหรับจิงโจ้แดง เป็นสัตว์ที่พละกำลังแข็งแรงมาก พลังกล้ามเนื้อค่อนข้างสูง ระยะกระโดดจะไปได้ไกลและไวมาก โดยจิงโจ้อยู่ในสถานการณ์ตื่นตกใจ และเตลิดได้ง่าย ดังนั้นจะต้องใช้ความละมุนละม่อมถ้าหากพบตัว จะไม่แนะนำให้ไล่
ถ้าพบขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่และทีมสัตวแพทย์จะเข้าไปดูแล โดยเจ้าหน้าที่วางแผนยิงยาสลบ ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ให้จิงโจ้แดงเตลิด เพราะหากมีการใช้วิธีการอื่นอาจทำให้จิงโจ้แดง ตื่นตระหนกตกใจ เนื่องจากระบบร่างกายของจิงโจ้แดงนั้นจะใช้พละกำลังจากกล้ามเนื้อ ซึ่งถ้าหากเกิดอาการตื่นตระหนกตกใจมาก ๆ จะทำให้ใช้พละกำลังมาก อาจทำให้กล้ามเนื้อสลาย จนส่งผลให้ไตและหัวใจทำงานหนัก อาจกระทบระบบไตและหัวใจวายได้
หากพบเบาะแสจิงโจ้แดงสามารถแจ้งมาได้ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ โทร 053- 221-179
#จิงโจ้แดง
#สวนสัตว์เชียงใหม่