ฝรั่งเศส-เยอรมนี หนุนยูเครนใช้อาวุธโจมตีฐานปล่อยขีปนาวุธรัสเซีย อ้างเพื่อป้องกันตนเอง

          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส พูดในการแถลงข่าวกับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ของเยอรมนี ระหว่างการเยือนรัฐบรันเดินบวร์ค เยอรมนีเมื่อวานนี้(28 พ.ค.67) โดยผู้นำฝรั่งเศสอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่ได้รับจากฝรั่งเศส เช่น ขีปนาวุธพิสัยไกล โจมตีไปยังฐานปล่อยขีปนาวุธของรัสเซีย เพื่อป้องกันตนเองให้ปลอดภัย แต่นายมาครงย้ำว่า ยูเครนจะต้องไม่ใช้อาวุธดังกล่าว เพื่อโจมตีย่านชุมชน หรือเป้าหมายทางทหารอื่นๆในรัสเซีย

          นายมาครง กล่าวว่า ที่ผ่านมา รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธหรือ ส่งโดรนจากฐานต่างๆในรัสเซียเข้าทำการโจมตีท้องที่ต่างๆของยูเครน พร้อมตั้งคำถามว่า พวกเรากลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)จะอธิบายเหตุผลต่อชาวยูเครนอย่างไรในเรื่องการช่วยปกป้องเมืองต่างๆของยูเครนให้ปลอดภัย ถ้าพวกเราแนะนำยูเครนไม่ให้ใช้อาวุธที่ได้รับจากชาติตะวันตก รวมถึงฝรั่งเศส เพื่อโจมตีไปยังต้นตอที่มีการปล่อยขีปนาวุธจากดินแดนรัสเซีย ซึ่งจะช่วยป้องกันเมืองต่างๆของยูเครนให้ปลอดภัย  

          นายชอลซ์ แสดงความเห็นในทำนองเดียวกัน ระบุว่า ยูเครนมีสิทธิ์จะป้องกันตนเองได้ตราบเท่าที่ทำตามเงื่อนไขต่างๆตามที่ประเทศผู้ให้สนับสนุนด้านอาวุธ เช่น สหรัฐฯ กำหนดไว้และทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ และเขามองว่าเป็นเรื่องแปลก ถ้าเผื่อว่ามีใครโต้แย้งว่ายูเครนไม่สามารถใช้อาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก เพื่อป้องกันตนเอง

          เว็บไซต์จากกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสระบุว่า ที่ผ่านมา ฝรั่งเศสได้ส่งมอบขีปนาวุธครูซรุ่น สคาลป์(SCALP)สำหรับยูเครน ซึ่งสามารถยิงได้ในระยะไกล 155 กม.และติดหัวรบ เช่นระเบิดหนัก 400 กก.(หรือ 881 ปอนด์) และสนับสนุนอาวุธอื่นๆเช่น ปืนใหญ่อัตตาจรซีซาร์ (howitzers)ที่สามารถยิงได้ไกล 42 กม.

#การสู้รบยูเครน