*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30
+++ต้องตามต่อ กระทรวงการต่างประเทศ สั่งเพิกถอนหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) 2 เล่ม ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีให้สัมภาษณ์ที่ประเทศเกาหลีใต้ มีเนื้อหาบางส่วนที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคง และฝ่ายความมั่นคงให้ดำเนินคดีในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, 326, 328 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นั้น นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เบื้องต้น สำนักงานอัยการสูงสุดได้รับสำนวนคดีดังกล่าวจากทางตำรวจแล้ว ซึ่งกรณีนี้เป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ตามขั้นตอนแล้วจึงต้องเสนอเรื่องให้ นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นผู้พิจารณา
+++ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ได้มอบหมายให้ พล.ต.ศรายุทธ กลิ่นมาหอม ผู้อำนวยการสำนักพระธรรมนูญ กองทัพบก เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ศาลอาญา โดยคดีดำเลขที่ 1824/2558 ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ฐานความผิดคดีหมิ่นประมาท หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศที่เข้าข่ายต่อความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 326 และ 328
++++พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการถอดยศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล จเรตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานว่า จะเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ปี 2547 เรื่องการถอดยศนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร หรือไม่ ล่าสุด ผลสรุปของคณะกรรมการรอให้ ผบ.ตร. เป็นผู้ให้สัมภาษณ์ พบว่า มีเอกสารยืนยันเป็นที่ประจักษ์จากหน่วยงานราชการหลายหน่วยงาน ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีอาญา จึงเข้าข่ายเหตุอย่างหนึ่ง อย่างใดในการถอดยศ และเตรียมเสนอ ผบ.ตร.พิจารณาได้ ภายใน 1-2 วันนี้ +++ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับตน แต่มีประชาชนจำนวนมากและกองทัพไปแจ้งความ เพราะการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการหมิ่นประมาท ให้ร้าย สร้างความเกลียดชัง จึงถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้แล้วแต่ละหน่วยงานที่มีหน้าที่จะพิจารณาดำเนินการกันเอง ตนไม่ได้สั่ง
+++พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวช่วงหนึ่งขณะรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกับผู้สื่อข่าวสายทำเนียบฯ ว่า เสี่ยงชีวิตเข้ามาทำรัฐประหารเพื่อความสงบของบ้านเมือง ต่อจากนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ประชาชนว่าจะเอาอย่างไร ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจไหมว่าจะลงจากหลังเสือได้อย่างสง่างาม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เรื่องนี้ก็แล้วแต่พวกเรา ผมก็ลงเหมือนคนเดินดินปกติ"แต่ที่ผ่านมาอดีตนายกฯ หลายคนเวลาลงจากหลังเสือก็บาดเจ็บตลอด "ก็ลงให้เป็นสิ หรือฆ่าเสือก่อนดี"
+++พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศกล่าวถึงคนไทยที่เคลื่อนไหวในต่างประเทศ บางคนมีคดีมาตรา 112 หรือบางคนก็ไปแถลงการณ์เคลื่อนไหว กลุ่มคนเหล่านี้เข้าข่ายพิจารณายกเลิกหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า คิดง่ายๆ ก็อยู่ในข่าย แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และมีเหตุผล เป็นธรรม และเป็นไปตามกฎหมาย
+++วันนี้ รัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพ จัดประชุม ว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ในมหาสมุทรอินเดีย ที่โรงแรม อนันตรา สยาม โดยเชิญเจ้าหน้าที่อาวุโส 15 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศมาร่วมถก นายนรชิต สิงหเสนี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การประชุมที่จะมีขึ้นก็เพื่อร่วมกันหามาตรการให้การช่วยเหลือ ประกอบด้วย 3 ระดับ คือ มาตรการให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนเป็นการช่วยชีวิต การระงับยับยั้งระงับการอพยพโยกย้ายถิ่นฐานออกมาจากพื้นที่เดิม และปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ และมาตรการสุดท้ายคือ การแก้ไขปัญหาระยะยาวที่รากเหง้า เนื่องจากปัญหาเกิดจากผู้คนต้องการออกมาหาโอกาสที่ดีกว่าในการดำรงชีวิต สิ่งที่ทำได้คืออาจให้คนออกมาตามระบบที่ถูกต้อง อาทิ การจัดทำเอ็มโอยูให้ออกมาทำงานหรือสร้างงานให้กลุ่มคน เหล่านี้ และในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ก็กำหนดจะจัดประชุมผู้เชี่ยวชาญเรื่องดังกล่าวเป็นการเฉพาะแล้ว"
+++ดร.ศรีประภา เพชรมีศรี นักวิชาการรัฐศาสตร์ สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในวงเสวนาของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย หัวข้อ "ชะตากรรมโรฮิงญา" ว่า การไม่มีเอกสารแสดงตัวตนของชาวโรฮิงญา เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้การเดินทางออกนอกประเทศ หรือการเดินทางไปยังประเทศต่างๆ เป็นเรื่องผิดกฎหมาย ขอเสนอให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เข้ามาพิสูจน์สัญชาติชาวโรฮิงญา พร้อมวางแผนจัดการบริหารกลุ่มคนเหล่านี้ เช่นเดียวกับ ที่เคยปฏิบัติสมัยวิกฤติการณ์อพยพอินโดจีน สำหรับการตั้งศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย (ศอ.ยฐ) ของรัฐบาลไทยนั้น ดร.ศรีประภา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะนโยบายดังกล่าวดูเหมือนเป็นวิธีการที่มีมนุษยธรรม แต่จริงๆ แล้ว เป็นการกระทำที่ไม่คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน
+++พล.ต.ต.ปวิณ พงษ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (รอง ผบช.ภ.8) ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวน เผยความคืบหน้าการดำเนินคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาว่า ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้ง 48 คน ในข้อหาอาชญากรข้ามชาติ อีก 1 ข้อหา นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือ โกโต้ง อดีตนายก อบจ.สตูล ถูกแจ้งข้อหามากที่สุด 12 ข้อหา และเจ้าหน้าที่ยังเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 1 คดี ซึ่งเป็นคดีสำคัญ แต่ยังไม่เปิดเผยในรายละเอียด เพราะยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน
+++ รศ.ยรรยง ทุมแสน หัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.)เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวสรีระสังขารของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทดจังหวัดนครราชสีมา ผิวหนังมีสีชมพูหลังจากที่นำไปเข้ากระบวนการดองสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ วันอาทิตย์ที่ 24 พ.ค. ถือว่าเป็นเรื่องปกติขึ้นอยู่กับสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ และในครูใหญ่จะมีสีผิวเขียวหรือสีดำ หรือสีนำตาล เพราะขึ้นอยู่กับว่าในตัวครูใหญ่ในช่วงที่มีชีวิตจะมีการสะสมสารพิษหรือสารต่างๆในร่างกายที่ไม่เหมือนกันขออย่าให้ประชาชนได้แตกตื่นกับข่าว
+++นายบัญชายุทธ นาคมุจลินท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.นครราชสีมา กล่าวถึงกรณีนายเกรียงไกร จารุทวี อดีตรองประธานกรรมการวัดบ้านไร่ซึ่งเป็นผู้บริหารวิหารเทพวิทยาคม ชี้แจงทรัพย์สินการบริหารงานวิหารหลวงพ่อคูณ มีหนี้สินกว่า 100 ล้านบาท และได้สำรองจ่ายไป 96 ล้านบาทว่าเป็นประเด็นสำคัญที่กรรมการวัดชุดใหม่ต้องไปหาข้อสรุป ขณะที่ นายธวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์กำนันตำบลกุดพิมาน อ.ด่านขุนทด ในฐานะคณะกรรมการวัดบ้านไร่ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสำรวจทรัพย์สินวัดบ้านไร่เปิดเผยว่าการสำรวจทรัพย์สินยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ผ่านมาแล้ว 4 วันนี้ ยังคงปกติ ทั้งโต๊ะฝังมุก ทรัพย์สินมีค่า สิ่งของต่าง ๆ มีการยืนยันตัวตนจากประชาชน หรือลูกศิษย์ที่เคยถวายให้แก่หลวงพ่อคูณ โดยทุกฝ่ายให้ความร่วมมือช่วยเหลือกันเป็นอย่างดีส่วนกรณีเรื่องสบง จีวรที่หลวงพ่อคูณเคยใช้นุ่งห่มนั้น ตอนนี้ยังอยู่ครบรวม 2 ชุด ไม่ได้หาย ไม่มีใครขโมยไปแต่อย่างใด
+++ห้ามเอาโฟม ถุงพลาสติก เข้าเขตการบิน นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ชี้แจงว่า มาตรการดังกล่าวได้เริ่มนำมาถือปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2558 เนื่องจากวัสดุกล่องโฟมและถุงพลาสติกได้สร้างปัญหาเป็นขยะที่อาจเป็นวัตถุแปลกปลอม (Foreign Object Debris : FOD) ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่ออากาศยานในขณะขับเคลื่อนได้ ที่ผ่านมา ได้มีการผ่อนผันการใช้มาตรการดังกล่าว เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เขตการบินในช่วงระหว่างที่ร้านอาหารส่วนใหญ่ได้ปิดให้บริการ แต่ในปัจจุบัน ทสภ. ได้มีการจัดหาร้านอาหารสวัสดิการราคาถูกเข้ามาให้บริการในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว