สิงคโปร์ แอร์ไลน์ ออกมาตรการใหม่ รับมือสภาพอากาศปั่นป่วน

24 พฤษภาคม 2567, 10:25น.


             สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เปิดเผยมาตรการใหม่ วานนี้ (23 พ.ค.67) โดยจะหยุดเสิร์ฟอาหารในระหว่างเที่ยวบิน เมื่อปรากฏสัญญาณรัดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งเป็นมาตรการเพิ่มเติมจากปัจจุบัน ที่กำหนดให้หยุดเสิร์ฟเครื่องดื่มร้อน เมื่อปรากฏสัญญาณรัดเข็มขัดนิรภัย ขณะเดียวกัน ลูกเรือจะต้องนั่งประจำที่ และรัดเข็มขัดนิรภัย เมื่อปรากฏสัญญาณรัดเข็มขัดนิรภัย 


            การออกมาตรการเพิ่มเติมมีขึ้น เพื่อรับมือกับช่วงเวลาที่เที่ยวบินประสบกับสภาพอากาศปั่นป่วน หลังจากเกิดเหตุเที่ยวบิน SQ 321 ประสบกับสภาพอากาศแปรปรวนอย่างกะทันหัน เมื่อวันที่ 21 พ.ค.67 จนต้องลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนมาตรการความปลอดภัยอื่นๆ ในช่วงเวลาที่ประสบกับสภาพอากาศย่ำแย่ ยังคงไว้เช่นเดิม 


            อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน SQ 321 นับเป็นอุบัติเหตุทางการบินครั้งแรกของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต หลังจากเมื่อปี 2543 เกิดเหตุเที่ยวบิน SQ 006 ตกที่ไต้หวัน ขณะที่ในการอัปเดตผ่านเฟซบุ๊ก วานนี้ สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ระบุว่า มีผู้โดยสาร 46 คน และลูกเรือ 2 คน ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ


            นายโกห์ ชุน ฟง ซีอีโอของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์  ได้เข้าพบผู้โดยสาร ลูกเรือ และครอบครัว ในกรุงเทพฯ เพื่อให้กำลังใจเป็นการส่วนตัวและเพื่อทำความเข้าใจข้อกังวล พร้อมทั้ง กล่าวว่า เรื่องสำคัญอันดับแรก คือ เรื่องการดูแลผู้โดยสารและลูกเรืออย่างดี ได้ให้ความมั่นใจเป็นการส่วนตัวแก่พวกเขาว่าเราจะดูแลพวกเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครของเราพร้อมให้ข้อมูลอัปเดตและความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ผู้โดยสารแต่ละคน นอกจากนี้เรายังอำนวยความสะดวกในการเดินทางของสมาชิกในครอบครัวมาที่กรุงเทพ และดูแลอย่างดีด้วย 




           ในนามของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อทุกคนในสิงคโปร์ ไทย และทั่วโลกที่ได้ช่วยเหลือเราในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ซึ่งรวมถึงสนามบินสิงคโปร์ชางงีและสนามบินสุวรรณภูมิ ตลอดจนพันธมิตรด้านการบินอื่นๆ ของเรา ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ และโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ที่คอยดูแลผู้โดยสารและลูกเรือของเราอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย


 


#สิงคโปร์แอร์ไลน์


#มาตรการใหม่


CR:ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Singapore Airlines


 


 


 


 
ข่าวทั้งหมด

X