เจ้าหน้าที่สืบนครบาลร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายวีระนันต์ หรือครูจู้ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.481/2567 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม67 โดยกล่าวหาว่า “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” และถูกดำเนินคดีเพิ่มในข้อหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” จับกุมตัวได้ที่ โรงเรียนสอนดนตรี ถ.สุขุมวิท 77 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เบื้องต้น ผู้ปกครองให้การว่า ลูกสาวของเธอเรียนกับ “ครูจู้” แบบตัวต่อตัว สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เรื่อยมาจนถึง เดือนมกราคม 2567 สาวน้อยเล่าให้ผู้เป็นแม่ฟังว่า ขณะที่เธอกำลังนั่งเรียนเปียโนอยู่ตามปกติ “ครูจู้” เริ่มเดินเข้ามาชิดที่หลังเธอ จนเธอรู้สึกตัวได้ว่ามีอะไรข้างหลังเธอ แต่เธอบอกกับแม่ด้วยความไร้เดียงสา ว่าในตอนนั้นเธอไม่เข้าใจว่ามันคือการทำอะไร แต่เธอถูกทำ “เช่นเดิม” แบบนี้ซ้ำๆ ทุกวันที่เธอไปเรียนเปียโน
จนวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ขณะที่เธอนั่งเรียนเปียโน บรรเลงเพลงตามปกติ จู่ๆ “ครูจู้” ได้เริ่มกระทำอนาจารมากขึ้นเรื่อยๆ เธอเล่าว่าเธอกลัวมากที่ได้สัมผัสกับสิ่งที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน เด็กสาวรวบรวมสติ ถีบไอ้หื่นล้มลงกับพื้น ก่อนที่เธอจะวิ่งหนีออกจากโรงเรียนนรก เพื่อหนีกลับไปหาผู้เป็นแม่ของเธอที่นั่งรออยู่ และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผู้เป็นแม่ได้ฟัง
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.หลังทราบเรื่อง สั่งให้ “ผู้การจ๋อ” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้การสืบนครบาล จัดทัพชุดสืบ “สารวัตรแจ๊ะ” เร่งติดตามไล่ล่าครูหื่นรายนี้มาดำเนินคดี ขณะเข้าจับกุม ชุดจับถึงกับผงะ เมื่อพบว่า หลังจากพี่งสอนดนตรีให้เด็กสาวไปเสร็จหมาดๆ เจ้าตัวเปลื้องผ้านอนล่อนจ้อนสไลด์ปั้นหนอนอยู่ภายในห้องนอนก่อนถูกจับกุมได้ในที่สุด เจ้าตัวนำตรวจค้น จนพบว่า ภายในห้องสอนดนตรีที่เจ้าตัวใช้สำหรับสอนดนตรีให้กับเด็กนักเรียนตามปกติ มีถุงยางอนามัย, เจลหล่อลื่น และยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน วางตั้งหลาอยู่บนเปียโนที่ตั้งอยู่กลางห้อง
ครูหื่นรายนี้ จัดได้ว่าอยู่ในประเภท “อาชญากรใคร่เด็ก” เมื่อชุดจับตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ แท็ปเล็ต และคอมพิวเตอร์ของ “ครูจู้” พบคลิปวิดีโอลามกอนาจารเกี่ยวกับเด็ก จำนวนมากกว่า 1,000 คลิป อีกทั้งอาชญากรรายนี้ ยังมีพฤติกรรมแอบถ่ายเด็กนักเรียนสาวที่ตนเองสอน ในขณะใส่ชุดนักเรียน ส่งไปให้กับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของมันดู แทบทุกวัน
ในชั้นจับกุม นายวีระนันท์ฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “กระทำอนาจารฯ” แต่รับสารภาพในข้อหา “ครอบครองสื่อลามกฯ” ในวันเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้เข้ามาเรียนเปียโนกับตนตามปกติ แต่ในวันดังกล่าวผู้เสียหายเล่นเปียโนไม่ตรงตามจังหวะที่ตนสอน ตนจึงได้ใช้อารมณ์ต่อว่าด้วยความรุนแรง ซึ่งตนคิดว่าผู้เสียหาย อาจจะไม่พอใจตนและกุเรื่องขึ้นไปฟ้องผู้ปกครองว่าตนกระทำอนาจารและในส่วนของคลิปและรูปภาพในโทรศัพท์มือถือที่ตำรวจ ตรวจเจอนั้น ยืนยันว่า ตนไม่เคยคิดไม่ดีกับเด็กและลูกศิษย์ เพียงแค่อยากอวดเพื่อนว่ามีลูกศิษย์สวยๆมาเรียนกับตน” หลังจับกุมตัวได้ นำตัว นายวีระนันท์ฯ ส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช.กล่าวว่า “เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหารายนี้ เนื่องจากพยานหลักฐานจากการสืบสวนแน่นหนา ประกอบกับผู้ต้องหารายนี้ว่า จัดได้ว่าอยู่ในประเภท “อาชญากรใคร่เด็ก” มีความหมกหมุ่น และคลั่งใคล้ในเรือนร่างของเด็กสาววัยรุ่นจนเรียกได้ว่าเข้าขั้น “โรคจิต” เชื่อว่ายังมีเด็กนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อ จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองที่เคยส่งบุตรหลานของท่านมาเรียนที่สถาบันแห่งนี้ โปรดสอบถามบุตรหลานของท่านว่าเคยถูกบุคคลดังกล่าวกระทำอนาจารหรือไม่ และหากผู้ใดเคยตกเป็นเหยื่อโปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB”
#สืบนครบาลIDMB
#ล่วงละเมิดเด็ก