สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า คณะกรรมาธิการด้านการคลังของวุฒิสภาสหรัฐฯที่มีนายรอน ไวเดน เป็นประธาน เปิดเผยรายงานของคณะกรรมาธิการฯ พบว่า 3 บริษัทผลิตรถยนต์ชื่อดัง คือ บีเอ็มดับเบิลยู(BMW)และ โฟล์คสวาเกน(Volkswagen หรือ VW)จากเยอรมนี และบริษัท จากัวร์ แลนด์โรเวอร์(JLR)จากอังกฤษ ใช้อะไหล่ชิ้นส่วนต้องห้ามจากบริษัทเสฉวน จิงเว่ยดา เทคโนโลยี กรุ๊ป(JWD)ของจีน หนึ่งในซัพพลายเออร์ของจีนที่อยู่ในรายชื่อกลุ่มบริษัทที่ถูกสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำตั้งแต่เดือนธ.ค.2566 ฐานพัวพันกับการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ เข้าข่ายละเมิดกฎหมายป้องกันการใช้แรงงานบังคับชาวอุยกูร์ (Uyghur Forced Labor Prevention Act: UFLPA)ของสหรัฐฯ
คณะกรรมาธิการฯพบว่า รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู รุ่น มินิ คูเปอร์ที่นำเข้าสู่สหรัฐฯอย่างน้อย 8,000 คัน ใช้อะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์จากบริษัท JWD ของจีน ซึ่งนายไวเดน สว.จากพรรคเดโมแครตของสหรัฐฯระบุว่า นโยบายการให้บริษัทรถยนต์ต่างๆตรวจสอบการทำงานของตนเอง ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เนื่องจาก บริษัทส่วนใหญ่ไม่ได้ตรวจสอบที่มาที่ไปของชิ้นส่วนอะไหล่อย่างจริงจัง พร้อมทั้งขอให้หน่วยงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP)ของสหรัฐฯเข้มงวดเรื่องการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและปราบปรามบริษัทเอกชนสหรัฐฯที่มีส่วนส่งเสริมให้เกิดการบังคับใช้แรงงานในประเทศจีน
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของบริษัทจากัวร์ เปิดเผยว่า บริษัทจากัวร์ ได้สั่งซื้ออะไหล่จากบริษัท JWD ตั้งแต่ก่อนที่บริษัท JWD ถูกสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำปลายปีที่แล้ว ซึ่งในขณะนี้บริษัททราบปัญหานี้แล้ว และจะทำลายชิ้นส่วนอะไหล่ที่มีอยู่ในโกดังสินค้าต่างๆทั่วโลกที่บริษัทสั่งซื้อจากบริษัทที่ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร รวมถึงทำลายชิ้นส่วนอะไหล่ล็อตที่นำเข้าจากบริษัท JWD ของจีนด้วย
ที่ผ่านมา ประเทศจีน ถูกวิจารณ์จากหลายฝ่าย รวมทั้งสหรัฐฯว่า กักขังชาวอุยกูร์กว่าหนึ่งล้านคนในค่ายแรงงานเป็นระยะเวลาหลายปีโดยที่ชาวอุยกูร์ไม่ยินยอม เข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ทางการจีน ชี้แจงว่า เป็นการฝึกอาชีพและปรับทัศนคติสำหรับชาวอุยกูร์หัวรุนแรงในมณฑลซินเจียง ทางภาคตะวันตกของประเทศ
#การค้าสหรัฐจีน
#มาตรการตอบโต้ทางการค้า