การถึงแก่อสัญกรรมของปธน.อิหร่าน เกิดขึ้นในช่วงที่ตอ.กลางขัดแย้งมากขึ้น ด้านเจ้าหน้าที่อิสราเอล ยืนยัน ไม่เกี่ยวข้องเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก

           สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวิเคราะห์ การถึงแก่อสัญกรรมของประธานาธิบดีอิบราฮิม ไรซี จากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในจังหวัดอาเซอร์ไบจาน ตะวันออก ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่าน ช่วงบ่ายวันอาทิตย์(19 ธ.ค.67) ตามเวลาท้องถิ่น มีเจ้าหน้าที่คนอื่นๆเสียชีวิตอีก 8 คน ในจำนวนนี้ รวมถึงนายโฮสเซน อามีร์ อับดุลลาห์ยาน รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ว่าเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบากในตะวันออกกลาง ทั้งสถานการณ์ที่อิหร่านถูกกดดันจากนานาชาติเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ ขณะที่มีปัญหาภายในประเทศจากความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ ขณะที่อิหร่าน มีความสัมพันธ์ทางทหารที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับรัสเซียในช่วงสงครามในยูเครน

          นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสที่เป็นพันธมิตรของอิหร่าน โจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.66 ทำให้อิสราเอลโจมตีตอบโต้กลับทั่วฉนวนกาซา สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เปรียบเสมือน“สงครามเงา” ที่ยาวนานระหว่างอิหร่านและอิสราเอล

          เจ้าหน้าที่อิสราเอลที่ไม่ประสงค์ที่จะเปิดเผยชื่อ บอกกับรอยเตอร์ว่า อิสราเอลไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีการถึงแก่อสัญกรรมของนายไรซี

          ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่า สถานการณ์ในตะวันออกกลางจะขยายวงกว้างมากขึ้น เหตุการณ์เกิดจาก อิสราเอล โจมตีทางอากาศของไปที่สถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัสของซีเรีย ทำให้ผู้บัญชาการระดับสูงในหน่วยพิทักษ์การปฏิวัติ (IRGC) ชั้นยอดของอิหร่าน เสียชีวิต หลังจากนั้น อิหร่าน โต้กลับอิสราเอลด้วยการยิงโดรนและขีปนาวุธอย่างรุนแรง ตั้งแต่นั้นมา การปะทะกันโดยตรงระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ได้หยุดลง แต่สงครามตัวแทนยังคงดำเนินต่อไป โดยกองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เช่น ฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ ยังคงต่อสู้กับกองกำลังของอิสราเอลต่อไป

#อิบราฮิมไรซี

#ตะวันออกกลาง

แฟ้มภาพ