สวนสัตว์บึงฉวากรับมอบลูกเสือโคร่ง สัตวแพทย์เผยขาหลังไม่แข็งแรงเร่งเสริมแคลเซียม

18 พฤษภาคม 2567, 13:59น.


          กรณีที่พบลูกเสือโคร่งกลางชุมชนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ต่อมาเจ้าของอ้างว่าเป็นไลเกอร์ ที่นำมาทาสีเพื่อเตรียมถ่ายหนัง แต่ผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันว่า เป็นลูกเสือโคร่ง นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงให้ตรวจยึดสัตว์ป่าของกลาง และแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของ



          สวนสัตว์บึงฉวาก สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า วันนี้ (18 พ.ค.67) เวลา 05.00 น. ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี ได้รับมอบลูกเสือโคร่ง เพศเมีย (ยังไม่ได้ตั้งชื่อ) จำนวน 1 ตัว อายุประมาณ 3-4 เดือน จากหัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 ( กระบกคู่ ) และ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว



          ทั้งนี้ ลูกเสือโคร่งของกลาง คดีอาญาที่ 244/2567 ยึดของกลางไว้ลำดับที่ 63/2567 มี 20.5 กิโลกรัม ผู้ดูแลได้ให้อาหารคือ



1.นม KMR ชนิดผง (ชง) ภายใน 1 วัน แบ่งให้กินนมทุก 3 ชม./ครั้ง 



2. เนื้อวัวสับหยาบ ให้กินวันละ 2 มื้อ 



3. อื่นๆ



- เสริมแคลเซียม สำหรับสุนัข แบบเม็ด



          อาการและพฤติกรรมโดยทั่วไปที่ตรวจเช้าวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 มีดังนี้



1. มีความสนใจสิ่งแวดล้อมดี มีพฤติกรรมค่อนข้างติดคน มีความอยากใกล้ชิดคนตลอดเวลา



2. การกินเนื้อวัว และนม ปกติ



3. ปัสสาวะปกติ ยังไม่ถ่ายอุจจาระ



4. สัตวแพทย์ตรวจอาการ เบื้องต้นพบว่า สองขาหลังลงน้ำหนักได้ แต่ไม่แข็งแรงมาก (ขาหลังอ่อน) ซึ่งจะต้องตรวจดูอาการต่อไปอย่างต่อเนื่อง ต้องเสริมสารอาหารจำพวกแคลเซียม และให้กินอาหารที่ถูกหลักตามโภชณ ศาสตร์ที่ลูกเสือโคร่งควรได้รับตามหลักวิชาการ เพื่อป้องกันภาวะโรคกระดูกบาง กระดูกเสื่อม ในลูกสัตว์ได้



5. การเลี้ยงดูแล จะต้องทำการแยกเลี้ยงเดี่ยว เพื่อทำการกักโรค ภายใน 7 วัน ไม่ปล่อยเดินเล่นนอกอาคารเลี้ยงดูลูกสัตว์ แต่ที่อาคารเลี้ยงดูลูกสัตว์สามารถเปิดรับแสงแดดได้ในยามเช้า



6. ในระหว่างการกักโรค ภายใน 7 วัน สัตวแพทย์จะต้องดำเนินการ เจาะเลือด เพื่อตรวจสุขภาพทั่วไป และ ทำการส่งเก็บเลือดไปยัง หน่วยนิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานฯ เพื่อทำการตรวจชนิดพันธุ์ของลูกเสือโคร่ง และทำการฝังไมโครชิฟ เพื่อทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่า ต่อไป



          สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากฯ เพิ่มเติมกับ จส.100 ว่า ในการกักโรค 7 วัน ยังไม่ให้ออกไปนอกอาคารพยาบาล แต่จะเปิดประตูกระจกเพื่อให้รับแสงแดดยามเช้า มีพี่เลี้ยง 3 คนคอยดูแลตลอด เนื่องจากลูกเสือโคร่งมีพฤติกรรมคุ้นชินกับคน หากไม่เห็นจะร้อง และจะเริ่มโปรแกรมวัคซีนใหม่ทั้งหมด



          ส่วนที่มีอาการสองขาหลังอ่อนแรง หมอจะเพิ่มแคลเซียม และเสริมอาหารเป็นเนื้อวัว นม ตอนนี้ให้กินนมผง และจะเลี้ยงไปเรื่อย ๆ ให้มีสุขภาพที่แข็งแรง





#สวนสัตว์บึงฉวาก



#ลูกเสือไม่ใช่ไลเกอร์



 

ข่าวทั้งหมด

X