กลุ่มรัฐมนตรีการต่างประเทศจาก 13 ประเทศร่วมลงนามในจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงนายอิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีการต่างประเทศอิสราเอล เรียกร้องให้อิสราเอลปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ยุติปฏิบัติการภาคพื้นดินต่อเมืองราฟาห์ และเปิดจุดผ่านแดนทุกแห่ง เพื่อเพิ่มการจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซา
จดหมายความยาว 5 หน้าฉบับนี้ ลงนามโดยรัฐมนตรีการต่างประเทศของกลุ่ม G7 ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น และแคนาดา ร่วมด้วยออสเตรเลีย เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ เกาหลีใต้ และสวีเดน
การเผยแพร่จดหมายฉบับนี้มีขึ้นในขณะที่กองกำลังของอิสราเอลเข้าโจมตีเมืองราฟาห์ ตามแผนกวาดล้างกลุ่มฮามาส แม้ว่าจะมีคำเตือนว่าอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายครั้งใหญ่ในพื้นที่ที่มีผู้พลัดถิ่นหลายล้านคน และเป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของหลายประเทศเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล ซึ่งในจดหมายระบุว่า ตามการคาดการณ์ของสหประชาชาติ ปฏิบัติการทางทหารในเมืองราฟาห์จะส่งผลกระทบต่อผู้คนประมาณ 1 ล้าน 4 แสนคน
แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะเริ่มการจัดส่งความช่วยเหลือผ่านท่าเรือลอยน้ำที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จสิ้นเมื่อวันศุกร์ (17 พ.ค.67) แต่สหรัฐฯ และกลุ่มบรรเทาทุกข์เตือนว่า โครงการนี้ไม่สามารถทดแทนการขนส่งทางบกที่สามารถนำอาหาร น้ำ และเชื้อเพลิงที่จำเป็นเข้าสู่ฉนวนกาซาได้ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดของอิสราเอลเกี่ยวกับการเดินทางข้ามแดนและการสู้รบรุนแรงในหลายพื้นที่
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า สงครามในฉนวนกาซาถือเป็นบาดแผลที่จะส่งผลกระทบต่อทั้งภูมิภาค สงครามนี้เป็นความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่เขารับตำแหน่ง
ด้านกองกำลังของอิสราเอล รายงานการโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยเมืองเจนิน ในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครองมีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บอีก 8 ราย โดยระบุว่า ผู้เสียชีวิตคือ นายอิสลาม คาไมซา เป็นผู้บัญชาการของกลุ่มนักรบปาเลสไตน์
ส่วนการโจมตีเป้าหมายทางใต้ของเลบานอนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 รายและได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน หนึ่งในกลุ่มผู้เสียชีวิตคือเจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮามาส
นอกจากนี้ยังมีการส่งโดรนโจมตีเป้าหมายใกล้ชายแดนเลบานอนติดต่อกับซีเรีย ผู้เสียชีวิตคือ นายชาราบิล อัล-ซาเอ็ด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการอัล-จามา อัล-อิสลามิยะห์ระดับสูงในเลบานอน ซึ่งมีความร่วมมือกับกลุ่มฮามาส โดยกล่าวหาว่าเขาเป็นผู้นำและสนับสนุนการโจมตีและก่อการร้ายหลายครั้งจากดินแดนเลบานอน
และผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอิสราเอลล่าสุด พบว่า นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลมีคะแนนนิยมลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 32 ขณะที่นายเบนนี แกนต์ซ สมาชิกคณะรัฐมนตรีสงคราม มีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 35 เขาเป็นนักการเมืองสายกลางที่เป็นคู่แข่งทางการเมืองกับนายเนทันยาฮูมาอย่างยาวนาน
...
#อิสราเอล
#ราฟาห์
#สหประชาชาติ