*นายกฯเผยกำลังพิจารณาะดำเนินคดีทักษิณตามม.112*

หลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพิกถอนหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)  ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะดำเนินคดีในมาตรา 112 แก่พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ หลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่าฝ่ายความมั่นคงพิจารณาเห็นว่าการให้สัมภาษณ์ของอดีตนายกฯ มีเนื้อหาบางส่วนที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคง

ส่วนการพัฒนาประเทศเพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจนในสังคม นายกฯ กล่าวในพิธีเปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชีย และแปซิฟิค (เอสแคปประจำปี) สมัยที่ 71  ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ว่า รัฐบาลไทยได้กำหนดวิสัยทัศน์ ในปี2015-2020 ให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน พร้อมกับการมีเสถียรภาพทางการเมือง รวมถึงการพัฒนาทุกด้าน ทั้งทางเศรษฐกิจ และสังคม สิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงจะมีการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนา ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับบุคคลและชุมชน  สิ่งสำคัญที่สุด คือ การพัฒนาบุคลากรของประเทศให้มีคุณภาพ เพื่อยกระดับความสามารถของประเทศ และภูมิภาคในการแข่งขัน  ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน ประชาชน ในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาอย่างแท้จริง

การทำงานของ เอสแคป ให้ความสำคัญด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม  ซึ่งเป็นทิศทางของโลกในการพัฒนา เพื่อแก้ปัญหาความเลื่อมล่ำ และความยากจนของประชาชนในแต่และประเทศ ซึ่งจากตัวเลขชี้ว่ามีประชาชนยากจน ทั่วโลก 1,400ล้านคน มีรายได้ต่ำกว่า 2เหรียฐสหรัฐ/ต่อวัน/ต่อคน ขณะที่คนจนยิ่งจนลง แต่คนรวยกับรวยขึ้น   รวมถึงประชาชนกว่า 1,700ล้านคน ที่ไม่สามารถเข้าถึงสุขอนามัยที่ดี และมีเด็กที่น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์อยู่ 75ล้านคน  รวมถึงมีเด็กกว่า  3ล้านคน ที่เสียชีวิตก่อนอายุ 5 ปี ซึ่งปัญหาเหล่านี้ รัฐบาลในแต่ละประเทศควรดูแลประชาชน รัฐบาลไทย พร้อมร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค

ผู้สื่อข่าว :วิรวินท์ ศรีโหมด