การศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ของการย้ายท่าเรือกรุงเทพออกจากคลองเตย นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนแต่งตั้งคณะทำงานฯ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคมเป็นประธาน รวมทั้งจะมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะทำงาน คาดว่าจะมีการประชุมครั้งแรก ภายในเดือนพ.ค.นี้
โดยในส่วนของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) มีการประชุมนอกรอบไปแล้ว 2 ครั้ง หลักการคือจะนำผลการศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่บริเวณท่าเรือกรุงเทพเดิม มาศึกษาทบทวนแผนเดิมในทุกมิติ ทั้งท่าเรือขนส่งสินค้า การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ การดูแลเรื่องชุมชนและที่อยู่อาศัยแบบใหม่ ซึ่งแผนเดิมมีการศึกษาเป็น Smart Community จะนำมาพิจารณาทั้งหมด ซึ่งจะใช้เวลาศึกษาทบทวนประมาณ 6 เดือน จากนั้นจะเร่งผลักดันให้เสร็จ
ส่วนจะย้ายท่าเรือไปทั้งหมดหรือไม่ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ต้องรอดูการศึกษาออกมาก่อน หลักการไม่น่าจะปิดบริการท่าเรือ แต่จะเป็นการจัดการพื้นที่ มีท่าเรือท่องเที่ยว บริการผู้โดยสาร ขณะท่าเรือขนส่งสินค้า จะคงมีอยู่ แต่เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆจะต้องเป็นไฟฟ้า เพื่อลดปัญหาเรื่องมลพิษทางอากาศ หรือหากจะย้ายท่าเรือบางส่วนออกไปก็จะแบ่งเป็นเฟส และมีระยะเวลาดำเนินการที่ชัดเจน
ด้านนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท.กล่าวว่า พื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ มีประมาณ 2,353 ไร่ รัฐบาลต้องการให้การใช้พื้นที่ในเมืองมีความคุ้มค่ามากขึ้น กทท.พร้อมทำงานร่วมมือกับคณะกรรมการฯในการพัฒนาพื้นที่ตามนโยบายนายกฯเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งท่าเรือกรุงเทพในปัจจุบัน มีพื้นที่ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ก่อนหน้านี้มีการศึกษาพัฒนา เป็นท่าเรือสีเขียว (Green Port) ภายใต้แนวคิดโครงการ SMART PORT ยกระดับสู่ศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร
สำหรับการย้ายตามนโยบาย นายกฯ นั้น จะเป็นอย่างไร คณะทำงานจะต้องศึกษาก่อนว่าจะมีการย้ายแบบไหน อาจจะขยับภายในพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ โดยอาจจะปรับลดขนาด และเพิ่มการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ เน้นผังเมืองที่ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ให้มากขึ้น และเพิ่มมูลค่าของพื้นที่
#ย้ายท่าเรือคลองเตย
#การท่าเรือแห่งประเทศไทย