นายฟิลิปเป ลาซซารินี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และการทำงานของสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA)โพสต์ข้อความทาง X ในวันนี้ว่า ชาวบ้านราว 360,000 คนแห่อพยพออกจากเมืองราฟาห์ ทางภาคใต้ของเขตฉนวนกาซา นับแต่กองกำลังป้องกันอิสราเอล(IDF)มีคำสั่งให้อพยพชาวบ้านไปยังเขตมนุษยธรรมในเมืองข่านยูนิสและเมืองอัล-มาวาซีเมื่อสัปดาห์ก่อน ก่อนบุกทางภาคพื้นดินครั้งใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อวาน(12 พ.ค.2567) ชาวบ้าน 60,000 คนหนีออกจากเมืองราฟาห์
นายลาซซารินี กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่ภาคเหนือของเขตฉนวนกาซาว่า IDF เดินหน้าโจมตีทางอากาศในเมืองกาซาซิตี้ พร้อมทั้งคำสั่งให้ชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่สู้รบ จะทำให้ชาวบ้านหลายพันครัวเรือนไร้ที่อยู่อาศัยและอยู่ด้วยความหวาดกลัวถูกโจมตีทางอากาศ ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านไม่มีสถานที่ใดๆในเขตฉนวนกาซาที่พวกเขาสามารถจะหลบหนีอย่างปลอดภัย ถ้าหากคู่ขัดแย้งคือ อิสราเอลและกลุ่มฮามาสไม่ยอมตกลงพักรบรอบใหม่
นายลาซซารินี กล่าวว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ในเขตฉนวนกาซาได้รับคำสั่งจาก IDF ให้อพยพเฉลี่ยเดือนละหนึ่งครั้ง เพื่อเลี่ยงอันตรายจากการโจมตีทางอากาศของ IDF ยังที่มั่นกลุ่มฮามาส พร้อมโต้แย้งคำอ้างเรื่องพื้นที่ปลอดภัยว่า ไม่มีอยู่จริง และอาจจะทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่ามีจริง พร้อมย้ำว่าในปัจจุบัน ไม่มีพื้นใดในเขตฉนวนกาซาเป็นพื้นที่ปลอดภัย
ก่อนหน้านี้ ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเตือนอิสราเอลเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เตือนไม่ให้บุกเมืองราฟาห์ หวั่นเกรงว่า การบุกทางภาคพื้นดินจะทำให้มีชาวบ้านบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก
ที่ผ่านมา หน่วยงานของยูเอ็นและองค์กรบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศคาดว่ามีประชาชนระหว่าง 1.2 ล้านคนถึง 1.4 ล้านคนอาศัยอยู่ในเมืองราฟาห์ ก่อนอิสราเอลสั่งอพยพชาวบ้านจากพื้นที่ทางตะวันออกของเมือง เมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะเดียวกัน ภาพถ่ายทางดาวเทียม ซึ่งซีเอ็นเอ็นตรวจสอบเมื่อสัปดาห์ก่อน แสดงให้เห็นว่า ท้องที่มีการตั้งเต๊นท์พักแรมสำหรับผู้อพยพในหลายท้องที่ของเมืองราฟาห์ ในขณะนี้มีจำนวนผู้พักอาศัยน้อยกว่าเดิม
#การอพยพในเมืองราฟาห์
#สงครามกาซา