ยอดคนลงคะแนนเลือกตั้ง อินเดียลดลง สะท้อนเบื่อการเมือง

          อินเดียเริ่มจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.-1 มิ.ย. เลือกตั้งสส.รวม 543 คน แบ่งพื้นที่เลือกตั้งทั่วประเทศเป็นเฟสต่างๆรวม 7 เฟส ใช้เวลาเลือกตั้งรวม 7 สัปดาห์จะครบทุกเฟส โดยมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเกือบ 1,000 ล้านคน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในวันนี้(13 พ.ค.2567) การเลือกตั้งของอินเดียเข้าสู่เฟสที่ 4  จะมีการเลือกตั้งสส.เขตรวม 96 ที่นั่งในใน 10 รัฐและดินแดน โดยเฉพาะรัฐหลักๆ เช่น รัฐอานธรประเทศ (เลือกสส.25 ที่นั่ง) รัฐเตลังคานา(สส.17 ที่นั่ง)ทางตะวันออกเฉียงใต้ และรัฐอุตตรประเทศ ทางภาคเหนือของประเทศ (สส.13 ที่นั่ง) ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งของอินเดียเปิดหีบเลือกตั้งตั้งแต่เวลา 07.00น.จนถึงเวลา 18.00น.

          นายอามิต ชาห์ รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายในของอินเดีย และคนใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย หัวหน้าพรรคภารติยะ ชนะตะ (BJP)กล่าวในช่วงเริ่มต้นเปิดคูหา ขอให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมาลงคะแนนให้มากๆเพื่อให้ได้รัฐบาลที่มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเข้ามาบริหารประเทศ ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่า ประเด็นหลักๆที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งให้ความสำคัญเช่น ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและเรื่องความแตกแยกทางศาสนา

          สำหรับผลเลือกตั้งในช่วง 3 เฟสแรกถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากนักวิเคราะห์ ตั้งข้อสังเกตว่า มีจำนวนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งลดลงจากการเลือกตั้งครั้งก่อน อาจจะเป็นเพราะผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งรู้สึกเบื่อเรื่องการเมือง ทำให้พวกเขาไม่สนใจไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง นอกจากนี้มีปัญหาอื่นๆเช่น เรื่องอากาศร้อนจัด อุณหภูมิในหลายท้องที่ของอินเดียสูงกว่า 40 องซาเซลเซียส อาจจะมีผลให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อยลง

          ขณะเดียวกัน สำนักโพลล์หลายแห่งของอินเดียตั้งข้อสงสัยว่า จากตัวเลขผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งลดลงกว่าเดิม พรรค BJP ของนายโมดีจะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้อย่างถล่มทลาย หรือไม่ ทั้งนี้ นายโมดีต้องการจะชนะเลือกตั้งสมัยที่ 3 ติดต่อกัน หลังบริหารประเทศมาแล้ว 2 สมัย รวม 10 ปี ในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแข่งขันระหว่างพรรค BJP กับพันธมิตรพรรคฝ่ายค้านกว่าสิบพรรค นำโดยพรรคองเกรส พรรคแกนนำฝ่ายค้าน

#การเมืองอินเดีย