ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกันตรวจสอบ บริษัทอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี, ลานเทโซกุนปาล์ม อ.เคียนชา จ.สุราษฎร์ธานี และบริษัทน้ำมันปาล์ม อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
สืบเนื่องจากราคาผลปาล์มน้ำมันมีราคาตกต่ำอย่างต่อเนื่อง จึงมีคณะติดตามสถานการณ์การรับซื้อทะลายปาล์มน้ำมัน และอัตราการสกัดน้ำมันปาล์มของบริษัทที่รับซื้อผลปาล์มและสกัดน้ำมันปาล์ม ทั้งในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.กระบี่ ซึ่งมีพื้นที่ปลูกปาล์มอันดับต้นของประเทศ
พบว่าปัจจัยที่ทำให้ราคาผลปาล์มตกต่ำมาจากสภาพอากาศที่แล้งจัด ส่งผลให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่สกัดได้มีเปอร์เซ็นต์ต่ำ ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้โรงสกัดน้ำมันปาล์มซื้อผลปาล์มของเกษตรกรถูกตามไปด้วย แต่คาดว่าหลังจากมีฝนตกลงมาในช่วงนี้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น จะทำให้การสกัดน้ำมันปาล์มเปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการรับซื้อผลปาล์มของเกษตรกรสูงตามขึ้นด้วย
เนื่องจากการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันจะสูงหรือต่ำคิดเฉลี่ยตามค่าเปอร์เซ็นต์ของน้ำมันปาล์มที่สกัดได้ของโรงงาน และสิ่งที่จะทำให้ราคาผลปาล์มดีขึ้นด้วยนั้น ส่วนหนึ่งต้องมาจากเกษตรกรต้องตัดผลปาล์มที่มีคุณภาพ ในส่วนการตรวจสอบติดตามสถานการณ์ การรับซื้อทะลายปาล์มน้ำมันที่ลานเท ต่าง ๆ ในเขตพื้นที่
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 ปคบ. เน้นย้ำถึงผู้ประกอบการในการติดป้ายแสดงราคารับซื้อให้ชัดเจน ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค และการทำผลปาล์มน้ำมันร่วงผิดธรรมชาติ การขนย้ายน้ำมันปาล์ม รวมถึงต้นกล้าปาล์มน้ำมัน เพื่อการค้าที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่มีใบอนุญาต ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงตราชั่งให้ตรงตามที่กฎหมายกำหนดซึ่งการกระทำดังกล่าวผู้ใดฝ่าฝืนถือเป็นผิดถือตามกฎหมาย มีโทษทางอาญา
กรณีที่ 1 การทำผลปาล์มน้ำมันร่วงผิดธรรมชาติ โดยการบ่ม หรืออะไรก็ตามที่ไม่ได้สุกร่วงตามธรรมชาตินำมาขาย เป็นการทำร้ายอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน มีความผิดตามกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
กรณีที่ 2 การรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน ให้เริ่มแสดงราคารับซื้อตั้งแต่ อัตราน้ำมัน 18% ขึ้นไป โดยให้แสดงไว้ ณ บริเวณหน้าสถานที่รับซื้อและจุดรับซื้อ และห้ามมิให้ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อผลปาล์มร่วง ฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีโทษตามมาตรา 40 ปรับไม่เกิน 10,000 บาท แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
กรณีที่ 3 ห้ามบุคคลใดขนย้ายน้ำมันปาล์ม ซึ่งมีปริมาณครั้งละตั้งแต่ 25 กก. ขึ้นไป โดยทางบกหรือทางทะเลเข้ามา หรือออกจากพื้นที่ควบคุม เว้นแต่ได้รับหนังสืออนุญาตจากเลขาธิการกกร. (หรือผู้ซึ่งเลขาธิการ กกร.มอบหมาย) ประธาน กจร.(หรือผู้ซึ่งประธาน กจร.มอบหมาย) หรือพาณิชย์จังหวัด ฝ่าฝืนมีความผิด ตามกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
กรณีที่ 4 ต้นกล้าปาล์มน้ำมัน เพื่อการค้าที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่มีใบอนุญาต ไม่ได้มาตรฐาน ความผิดตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช มาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 14 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี
ผลปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ. สั่งการให้ พ.ต.ท.อนันต์ บัวแก้ว สว.กก.1 บก.ปคบ., พ.ต.ต.บุญโชค มะลิโชติ สว.กก.1 บก.ปคบ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. ดำเนินการ
..
#ตำรวจสอบสวนกลาง #ปาล์มน้ำมัน