นาย เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศว่าอิสราเอลสามารถ "ยืนหยัดได้เพียงลำพัง" หลังจากที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เตือนว่าสหรัฐฯ อาจหยุดการสนับสนุนอาวุธให้อิสราเอล หากนายกรัฐมนตรีอิสราเอลออกคำสั่งโจมตีราฟาห์ในฉนวนกาซาอย่างเต็มรูปแบบ โดยในขณะนี้มีคำสั่งระงับการจัดส่งระเบิดไปให้กับอิสราเอลแล้ว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (8 พ.ค.67) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกกับซีเอ็นเอ็นว่าอิสราเอลนำระเบิดที่อเมริกาจัดส่งไปให้ สังหารพลเรือนชาวปาเลสไตน์ ดังนั้นหากอิสราเอลบุกโจมตีราฟาห์ เขาก็จะไม่จัดหาอาวุธให้อีก
อย่างไรก็ตาม นายเนทันยาฮู กล่าวว่า หากจำเป็น อิสราเอลก็ยืนหยัดต่อสู้เพียงลำพัง และกล่าวถึงสงครามปี 1948 (พ.ศ.2491) ซึ่งแม้ว่าจะมีกำลังคนจำนวนน้อย สามารถเอาชนะกลุ่มคนจำนวนมากได้สำเร็จ ทั้งเชื่อว่าในการต่อสู้ครั้งนี้ อิสราเอลจะไม่โดดเดี่ยว เพราะยังมีผู้คนอีกมากมายทั่วโลกที่ให้การสนับสนุนการกระทำที่ชอบธรรมของอิสราเอล
ส่วนรัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล กล่าวว่า ทั้งศัตรูและมิตรของอิสราเอลควรเข้าใจว่าอิสราเอลจะไม่พ่ายแพ้ และจะยืนหยัดอย่างเข้มแข็ง จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย
สหประชาชาติ รายงานว่า ตั้งแต่ในวันจันทร์ (6 พ.ค.67) มีผู้คนมากกว่า 80,000 คนเดินทางออกจากเมืองราฟาห์ ที่ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง และมีรถถังของอิสราเอลจำนวนมากขึ้นเข้ามาใกล้พื้นที่ นอกจากนี้ยังเตือนด้วยว่าอาหารและเชื้อเพลิงกำลังจะหมดลง ในขณะที่ผู้คนมากกว่าหนึ่งล้านคนที่ยังคงพักพิงอยู่ในเมืองนี้ กำลังรอคอยความช่วยเหลือ
นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีไบเดนไม่เชื่อว่าการโจมตีราฟาห์จะทำให้เป้าหมายของอิสราเอลในการเอาชนะกลุ่มฮามาสก้าวหน้าขึ้น
…
#อิสราเอล
#โจไบเดน
#ราฟาห์