นายเบอร์นาร์ด เคอร์แบลต ตัวแทนจากฟิลิปปินส์ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ประเมินว่าผู้อพยพอีกราว 2,621 คนยังคงติดค้างอยู่ในทะเล เขาพูดเรื่องนี้ระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายมาร์โก โบอัสโซ หัวหน้าคณะทำงานขององค์การผู้อพยพย้ายถิ่นสากล(ไอโอเอ็ม)ในกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ ซึ่งประชุมกันเรื่องการย้ายถิ่นแบบผิดปกติในมหาสมุทรอินเดียระบุว่า สิ่งที่ทุกฝ่ายต้องดำเนินการร่วมกันในขณะนี้คือ การระดมสรรพกำลังเพื่อค้นหาและกู้ภัยเพิ่มเติมจากการกู้ภัยที่ได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้
ด้านนายมาร์โก ระบุว่าปัญหาการอพยพถิ่นฐานแบบผิดปกติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นปัญหาวิกฤติที่ยืดเยื้อมานาน ตามข้อมูลของไอโอเอ็ม ปัญหาการลักลอบค้าชาวโรฮิงญาได้รับการบันทึกเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2547 ทำให้ไอโอเอ็มขอรับบริจาค 26 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ นอกจากนี้การที่รัฐบาลไทยปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์เมื่อไม่นานมานี้ทำให้ผู้อพยพชาวโรฮิงญาและชาวบังกลาเทศหลายพันคนติดค้างอยู่ในทะเลเนื่องจากถูกลอยแพโดยขบวนการค้ามนุษย์
ขณะเดียวกัน ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับภูมิภาคในวันศุกร์นี้ เพื่อหาทางแก้ปัญหาวิกฤติผู้อพยพ จะมีตัวแทนจาก 19 ชาติและองค์กรระหว่างประเทศอีกหลายองค์กรร่วมประชุม ที่ผ่านมาทั้งยูเอ็นเอชซีอาร์และไอโอเอ็ม เห็นพ้องว่าปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาของกลุ่มอาเซียนเท่านั้น เนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายรวมถึงบังกลาเทศและออสเตรเลีย ระบุว่าไม่ควรตำหนิใครว่าเป็นต้นเหตุของปัญหา แต่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรจะพูดคุยกันว่าทำอย่างไรจึงจะช่วยชีวิตของผู้อพยพในฐานะเพื่อนมนุษย์/16.23 น.