เปิดผลสำรวจการใช้จ่ายของผู้ปกครองในเปิดเทอมปี 2567 นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงข่าว"ประเมินผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม" พบว่า มูลค่าการใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมปี 67 อยู่ที่ 60,322.62 ล้านบาท จากปี 66 ที่ 57,885.63 ล้านบาท หรือโต ร้อยละ 4.21 ถือเป็นมูลค่าการใช้จ่ายที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 53 หรือที่ได้มีการสำรวจมา 15 ปี เป็นภาพสะท้อนที่ผู้ปกครองมีการใช้วงเงินสูงสุด ตามค่าครองชีพที่แพงขึ้น จากผลสำรวจพบว่าร้อยละ 46.0 ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังใช้จ่ายเท่าเดิม และร้อยละ 43.1 ใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าแพงขึ้น ส่วนจำนวนสินค้าที่ใช้จ่ายเมื่อเทียบกับปีก่อน ผู้ปกครองร้อยละ 51.8 บอกว่าซื้อเท่าเดิม ในส่วนของชุดนักเรียน ถุงเท้า และรองเท้า ซึ่งสะท้อนว่ายังมีการระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย
เมื่อสอบถามว่า มีเงินเพียงพอกับค่าใช้จ่ายช่วงเปิดเทอมหรือไม่นั้น ผู้ปกครองส่วนใหญ่ร้อยละ 54.4 ระบุว่ามีเพียงพอ โดยมาจากเงินออม รองลงมาคือเงินเดือน ส่วนอีกร้อยละ 45.6 บอกว่าเงินไม่เพียงพอ โดยส่วนใหญ่เลือกที่จะผ่อนชำระเป็นงวดๆ รองลงมาคือการจำนำทรัพย์สิน
นายธนวรรธน์ ระบุว่า ผลสำรวจสะท้อนว่าภาวะเศรษฐกิจยังไม่ได้แย่ แต่ยังไม่คล่องตัว ไม่ฟื้นเต็มที่ โดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคตกลงมาเมื่อเดือนที่แล้ว และบรรยากาศช่วงสงกรานต์เศรษฐกิจมีอาการช็อต ซึม ภาคธุรกิจบอกว่ายอดขายอืดๆ เนื่องจากงบประมาณแผ่นดินที่ไม่ได้ออกมา 1 ปี มีผลอย่างเต็มที่ตอนนี้ และงบประมาณที่ออกมาแล้วตอนนี้ รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ อัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากบรรยากาศช่วงเปิดเทอมสะท้อนว่า ผู้ปกครองยังระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย
นายวาทิตร รักษ์ธรรม ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการสำรวจกลุ่มผู้ปกครอง ได้สะท้อนสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลปรับปรุงด้านการศึกษาของไทยในปัจจุบัน ดังนี้ เพิ่มบุคลากรทางการศึกษาโดยเฉพาะคุณครูให้มีจำนวนเหมาะสมในการดูแลนักเรียน ปรับการเรียนการสอนโดยเฉพาะวิชาแกน เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ให้น่าสนใจ ใช้การปฏิบัติการควบคู่ทฤษฎี สร้างความตระหนักรู้ให้กันเยาวชนเกี่ยวกับสิ่งเสพติดต่างๆ รวมทั้งโรงเรียนควรสอดส่องให้เข้มงวดมากขึ้นลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา ทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอน ความรู้ ทักษะความคิดต่างๆ พัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้เท่าทันโลก และสามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ และสามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หอการค้าไทย ยังได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงวันวิสาขบูชา โดยคาดว่าปี 67 เงินจะสะพัดช่วงวันวิสาขบูชา 3,812.76 ล้านบาท นายธนวรรธน์ เชื่อว่าในวันนั้นจะมีความคึกคักทางพิธีกรรมทางศาสนา เนื่องจากเป็นวันหยุดกลางสัปดาห์ การลาหยุดเพิ่มอีก 2 วันเกิดขึ้นได้น้อย กิจกรรมที่กลุ่มตัวอย่างเลือกทำมากที่สุด คือการไปเวียนเทียน รองลงมาคือการพักผ่อนอยู่บ้าน
หอการค้าสังเกตว่า ถ้าเศรษฐกิจปีไหนไม่ค่อยคึกคัก คนจะทำบุญมากขึ้น ซึ่งเศรษฐกิจขณะนี้ยังฟื้นตัวได้ไม่ดี การใช้จ่ายช่วงเปิดเทอม และวันวิสาขบูชา เป็นบรรยากาศสะท้อนว่าเศรษฐกิจยังไม่คึกคัก บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยยังไม่โดดเด่น มีการใช้จ่ายแบบระมัดระวัง และการใช้จ่ายที่มากขึ้นมาจากของที่แพงขึ้น
#เปิดเทอมวิสาขบูชา
#เศรษฐกิจชะลอตัว