ตร.แจ้งข้อหาคนร้ายล่วงละเมิดบนสถานีรถไฟฟ้าฝากขังพรุ่งนี้ - BTSแถลงเสียใจเหตุสุดวิสัย

08 พฤษภาคม 2567, 18:03น.


        หลังเกิดเหตุคนร้ายล่วงละเมิดคนบนบีทีเอสสถานีเคหะสมุทรปราการ ล่าสุด ผู้เสียหายได้ดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี และมารับทรัพย์สินซึ่งเป็นของกลางคืน ซึ่งตำรวจติดตามกลับคืนมาจากผู้ต้องหา จากนั้นผู้เสียหายยังได้กล่าวขอบคุณ พ.ต.อ.นพดล ที่สามารถจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้โดยเร็ว  ผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ สภาพจิตใจย่ำแย่ เกิดอาการแพนิค ภาวะตื่นตระหนก วิตกกังวลตลอดเวลา จากที่ตนเป็นคนที่สามารถเดินทางไปไหนมาได้คนเดียวได้ตลอด แต่ตอนนี้กลัวไม่สามารถจะไปไหนคนเดียวได้เหมือนแต่ก่อน ต้องให้แฟนกับแม่พาไป ตนมองว่าบีทีเอส เป็นการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุด เพราะมี รปภ.ประจำอยู่สถานี



          ที่สำคัญที่เกิดเหตุนั้น ไม่ห่างจากจุดที่แลกตั๋วและจุดตรวจมากนัก และยังเป็นช่วงกลางวันด้วย จึงไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องแบบนี้ ส่วนเรื่องงานนั้นบริษัทให้ตนเองหยุดพักไปก่อน เนื่องจากสภาพจิตใจยังแย่ ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น ขณะนี้ตนเองไม่มีความเชื่อมั่นแล้ว อยากให้ ทางบีทีเอส จัดเจ้าหน้าที่ รปภ.ให้มากกว่านี้ หรือถ้ามีคนไปแจ้งว่ามีคนเข้ามาทำพฤติกรรมลักษณะแบบี้ ควรรีบเข้ามาจัดการ เพราะมันเป็นภัยสังคมและอันตรายมาก หากเหตุมันเกิดแล้วแก้อะไขอะไรไม่ได้ และยังทำให้คนที่ประสบเหตุต้องอยู่ในความทรงจำที่เลวร้ายไปตลอดชีวิต



       อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ที่ไม่นิ่งนอนใจ ทำงานได้รวดเร็ว หลังเกิดมาแจ้งความไม่ถึง 3 ชม.ก็สามารถติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้แล้ว และยังสามารถติดตามของทั้งหมดที่ผู้ก่อเหตุได้ไปกลับมาคืนได้ครบด้วย



          ต่อมา พ.ต.ท.ประสิทธิ์ เมฆษา สว.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้พาผู้เสียหายเดินทางไป ชี้จุดบริเวณที่เกิดเหตุ บนสถานีรถไฟฟ้า เคหะสมุทรปราการ ซึ่งระหว่างถ่ายรูปชี้จุดอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ รปภ.ของ บีทีเอส ได้เข้ามาห้ามตำรวจ ไม่ให้บันทึกภาพ โดยแจ้งว่าให้ทำเรื่องมาขออนุญาตก่อน ซึ่งใช้เวลาเจรจากว่า 10 นาทีก่อนจะเดินทางกลับ



          ด้าน พ.ต.อ.นพดล กล่าวว่า ได้สอบปากคำเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะนำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ในวันที่ 9 พ.ค.ในข้อหา กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายกระทำต่อหน้าธารกำนัล,กระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลโดยกระทำการลามกอย่างอื่น,ทำร้ายร่างกาย,ลักทรัพย์ ส่วนผู้ต้องหานั้นสารภาพว่ากระทำดังกล่าวในวันเดียวถึง 2 ครั้ง แต่คดีหลักนั้นอยู่บริเวณสถานีบีทีเอส ส่วนแนวทางป้องกันนั้นทางสถานีตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้มีการมาตรการป้องกันและซักซ้อมกับ บีทีเอส กันอยู่ตลอดอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้จะเข้าไปขอความร่วมมือให้เพิ่มความถี่การตรวจสถานที่ให้มากขึ้น



          บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบ พบว่ามีผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งได้พบผู้ก่อเหตุ กำลังทำอนาจาร จึงได้รีบวิ่งไปแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่ง ณ เวลาดังกล่าว เป็นช่วงเวลาที่ผู้โดยสารหญิงอีกรายหนึ่ง (ผู้เสียหาย) ได้พบกับผู้ก่อเหตุ ถูกลวนลาม ทำร้ายร่างกาย และชิงทรัพย์ เมื่อได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และนายสถานี ได้รีบไปยังพื้นที่เกิดเหตุทันที พบผู้โดยสารหญิง (ผู้เสียหาย) แต่ผู้ก่อเหตุได้วิ่งหนีลงบันไดเลื่อนไป ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้วิ่งตามลงไป แต่ไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ จึงได้พาผู้โดยสารหญิง (ผู้เสียหาย) ไปพักยังห้องปฐมพยาบาลเพื่อดูแลสภาพจิตใจ และแจ้งสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ เพื่อนำคลิปจากกล้องวงจรปิดให้ตรวจสอบ และอำนวยความสะดวกในเรื่องข้อมูลต่าง ๆ จนขยายผลไปสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุในเวลาอันรวดเร็ว



          อย่างไรก็ตาม รถไฟฟ้าบีทีเอสมีมาตรการในการดูแลผู้โดยสารบนสถานี ทั้งการเดินตรวจพื้นที่สถานี ตลอดระยะเวลาให้บริการ และมีกล้องวงจรปิดในระบบกว่า 4,500 ตัว เพื่อใช้ในการติดตาม และป้องปรามในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆ



          บริษัทฯ ขอแสดงความห่วงใย และเสียใจต่อเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้โดยสารเกิดความมั่นใจในการใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสมากที่สุด



 



#ตำรวจรวบคนร้ายทันควัน



#ลวนลามบนBTS



 

ข่าวทั้งหมด

X