ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของบราซิลว่า มีผู้เสียชีวิต 57 ราย บาดเจ็บ 74 คนและสูญหายอีก 373 คน หลังฝนตกหนักมาหลายวัน เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างในรัฐรีโอกรันดีโดซูล (Rio Grande do Sul)ทางภาคใต้ของบราซิล มีชาวบ้านกว่า 67,000 คนได้รับผลกระทบ
ขณะเดียวกัน ทางการบราซิลอยู่ระหว่างเฝ้าระวังเขื่อนต่างๆ ซึ่งไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองน้ำฝนในปริมาณมากๆเช่นนี้ แต่เบื้องต้นไม่พบความเสี่ยงเกิดเหตุเขื่อนแตก ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวาของบราซิลได้ลงพื้นที่ประสบภัยเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว เพื่อพบปะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ดูแลการบรรเทาทุกข์สำหรับชาวบ้าน ขณะที่นายเอดูอาร์โด เลชี ผู้ว่าการรัฐโพสต์ข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์ว่า โชคร้ายที่พวกเราประสบน้ำท่วมใหญ่อีกครั้งในปีนี้ ทรัพย์สินของชาวบ้านเสียหายอย่างมาก
แต่ภารกิจเร่งด่วนของหน่วยงานท้องถิ่นคือ การลงพื้นที่ช่วยเหลือบ้านในพื้นที่น้ำท่วม มีหลายคนยังรอการช่วยเหลือจากทีมกู้ภัย ก่อนหน้านี้ รัฐบาลท้องถิ่นประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ประสบภัยรวมทั้งหมด 281 เทศบาล พร้อมจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวกว่า 4,500 แห่ง สำหรับผู้ไร้ที่อยู่อาศัยเกือบ 10,000 คน
ภาพข่าวแสดงให้เห็นน้ำโคลนสีเทาท่วมสูงแทบมิดหลังคาบ้านในบางท้องที่ ขณะเดียวกัน ทีมกู้ภัยใช้เรือท้องแบน เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านและขนสัตว์เลี้ยงออกมาจากพื้นที่น้ำท่วม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมารัฐรีโอกรันดีโดซูลได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสภาพการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ มีผู้เสียชีวิต 54 รายในรัฐนี้ หลังพายุไซโคลนพัดถล่ม
ทั้งนี้ วิกฤตจากภูมิอากาศ ส่วนใหญ่จากการที่มนุษย์เผาเชื้อเพลิงฟอสซิล เป็นสาเหตุหลักให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนทั่วโลก ในหลายๆครั้งเกิดฝนตกหนักบ่อยกว่าเดิม และมีปริมาณฝนมากกว่าเดิม เช่น ในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อน เกิดน้ำท่วม สร้างความโกลาหลให้กับนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย ส่วนที่เคนยาในทวีปแอฟริกา เกิดฝนตกหนักกระทั่งเขื่อนแตก มีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 ราย ขณะเดียวกัน อ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มแห้งขอดจากคลื่นอากาศร้อนทั่วทั้งภูมิภาคและภัยแล้งในระยะนี้
#บราซิล
#น้ำท่วมใหญ่