ผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่มีการกระชุมกัน 2 วัน ระหว่างวันที่ 30 เม.ย.67-1 พ.ค.67 ที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 23 ปี เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 6 หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.65 ทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด แถลงว่า ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินไป คาดว่า ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อจะผ่อนคลายลงในปีนี้ตามกรอบที่วางไว้ที่ 2%
นักลงทุนให้น้ำหนัก 42.1% คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.67 โดยจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ ลดลง 0.25% มาที่ระดับ 5.00-5.25% หลังการเปิดเผยดัชนีต้นทุนการจ้างงาน (ECI) ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และชี้ให้เห็นว่าตัวเลขเงินเฟ้อยังสูงอยู่ ซึ่งจะเป็นปัจจัยทำให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันพุธ (1 พ.ค.67) หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม และชี้ว่าแม้ความเคลื่อนไหวถัดไปน่าจะเป็นการปรับลดดอกเบี้ย แต่ก็ยังไม่อาจรับประกันเกี่ยวกับความก้าวหน้าของอัตราเงินเฟ้อ
-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 87.37 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 37,903.29 จุด
-เอสแอนด์พี ลดลง 17.30 จุด (0.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,018.39 จุด
-แนสแดค ลดลง 52.34 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,605.48 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการวันที่ 1 พ.ค.67 เนื่องในวันแรงงาน
ส่วนราคาทองคำ แกว่งตัวและปิดบวกในวันพุธ (1 พ.ค.67)
-ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิ.ย.67 เพิ่มขึ้น 8.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,311.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
#เฟดคงดอกเบี้ย
#ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น
แฟ้มภาพ
ไทยรักษาส่วนแบ่งตลาดโลกอันดับ 1 สินค้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์
โปรดเกล้าฯ คืนสมณศักดิ์'พระพรหมสิทธิ-พระศรีคุณาภรณ์' วัดสระเกศ หลังคดีถึงที่สุด
เตือนระดับสูงสุด 'ภูเขาไฟอิบู' ในอินโดฯ สถานทูต ระบุ ไม่มีรายงานคนไทยได้รับผลกระทบ
ข่าวทั้งหมด
