นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีพบว่าบริษัทแอสตร้าเซนเนก้ายอมรับวัคซีนทำให้ภาวะลิ่มเลือดอุดตันได้ในบางคน ว่า สำหรับเรื่องผลข้างเคียงจากวัคซีนแอสตร้าฯ ทางบริษัทได้มีการแจ้งข้อมูลออกมาตั้งแต่ในช่วงที่มีการอนุญาตในลักษณะฉุกเฉิน แต่ในขณะนี้มีการอนุญาตใช้โดยทั่วไปแล้ว
ที่ผ่านมา สธ.นำคำแนะนำที่ได้มาปรับแนวทางการให้วัคซีน เช่น บริษัทแอสตร้าฯ มีข้อมูลการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในกลุ่มผู้ที่มีอายุน้อย สธ. จึงออกคำแนะนำให้ฉีดในกลุ่มผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป
ปัจจุบันประเทศไทยได้ฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ ที่ซื้อมาจนหมดแล้ว และไม่ได้มีการจัดซื้อจัดหาเพิ่มเติม ซึ่งตอนนี้ที่ประเทศมีฉีดคือไฟเซอร์และโมเดอร์น่าเท่านั้น
ข้อมูลย้อนกลับไปเมื่อปี 2566 หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ของสหรัฐฯ รายงานอ้างคำเปิดเผยของนายวาฮี นาฟิยัน (Vahé Nafilyan) นักสถิติอาวุโสจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร หนึ่งในหัวหน้าทีมนักวิจัยที่ศึกษาวิเคราะห์การฉีดวัคซีน และสถิติการเสียชีวิตของผู้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในสหราชอาณาจักร เผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ คอมมิวนิเคชันส์ (Nature Communications) โดยวิเคราะห์การเสียชีวิตที่เกี่ยวโรคหัวใจของหญิงอายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งพบจำนวน 6 รายต่อประชากร 100,000 คน หลังรับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส โดยเป็นอัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวกับโรคหัวใจสูง 3.5 เท่าในระยะ 12 สัปดาห์ หลังรับวัคซีน เมื่อเทียบกับอัตราการเสียชีวิตจากสาเหตุอื่นๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน
สหราชอาณาจักรมีข้อห้ามใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าสำหรับคนวัยหนุ่มสาวอายุต่ำกว่า 30 ปี ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เนื่องจากมีความเสี่ยงเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน แต่กลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนในช่วงเวลานั้นคือบุคลากรสาธารณสุข และกลุ่มผู้ที่มีหน้าที่ดูแลผู้ที่มีสุขภาพอ่อนแอ เช่น ผู้สูงอายุ เนื่องจากคนอายุมากยิ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และบุคลากรสาธารณสุขถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่จะต้องรับวัคซีนเป็นกลุ่มแรก
ส่วนสหรัฐฯไม่อนุญาตให้ใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามาตั้งแต่แรก เนื่องจากมีผลวิจัยบ่งชี้ว่า สตรีอายุต่ำกว่า 30 ปี ที่มีสุขภาพแข็งแรง อาจจะเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคหัวใจใน 12 สัปดาห์หลังการรับวัคซีน แต่ที่ผ่านมา มีการกระจายวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากว่า 3,000 ล้านโดสไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2565 กว่า 170 ประเทศอนุญาตให้ใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า แม้ว่าในระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมา บางประเทศอนุญาตให้ใช้วัคซีน mRNA รุ่นใหม่สำหรับการฉีดบูสเตอร์ เนื่องจากสามารถต้านไวรัสโอไมครอน
สำหรับภาวะลิ่มเลือดอุดตันอาจจะทำให้คนไข้มีอาการหัวใจกำเริบ หรือโรคเส้นเลือดในสมองตีบ
#โควิด19