ผู้นำสิงคโปร์ปราศรัยใหญ่วันแรงงาน ครั้งสุดท้ายก่อนวางมือ ย้ำความสำคัญเสถียรภาพการเมือง -ความศรัทธาของประชาชน

         ในโอกาสวันแรงงานสากลในวันนี้ (1 พ.ค.2567) นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง วัย 72 ปี ผู้นำคนที่ 3 ของประเทศสิงโปร์ได้ขึ้นเวทีศูนย์ประชุมและนิทรรศการ มารีนาเบย์แซนส์ เอ็กซโปในแถบอ่าวมารีนา ปราศรัยใหญ่ต่อสาธารณชนในสิงคโปร์ครั้งสุดท้าย ก่อนส่งไม้ต่อให้กับนายลอว์เรนซ์ หว่อง รองนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้

         สำนักข่าว CNA รายงานว่า นายลี กล่าวว่า เสถียรภาพทางการเมืองและความศรัทธาที่ประชาชนมีต่อรัฐบาลเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการเมืองของสิงคโปร์ในระยะยาว ระบุว่า ที่ผ่านมา พรรคกิจประชาชน (PAP) พรรครัฐบาลสิงคโปร์ ตั้งแต่ยุคของอดีตผู้นำคนแรกคือ อดีตนายกรัฐมนตรีลีกวนยู บิดาของเขา ต่อเนื่องมาถึงยุคผู้นำคนคนที่ 2 คือ อดีตนายกรัฐมนตรีโกะ จ๊กตง ทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อสร้างศรัทธาและรักษาศรัทธาของสาธารณชนที่มีต่อรัฐบาล ทำให้พรรคชนะการเลือกตั้งทั่วไป 15 ครั้งติดต่อกัน นับแต่ปี 2491 ทำให้พรรคสามารถจะผลักนโยบายต่างๆให้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

         มองผลงานย้อนหลังตลอด 20 ปีที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายลี กล่าวว่า สิงคโปร์เจริญก้าวหน้ากว่าเดิมมาก ชาวสิงคโปร์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าเดิมมาก พร้อมยกตัวอย่างโครงการช่วยเหลือประชาชนในยุคเงินเฟ้อสูง และค่าครองชีพแพง เช่น โครงการแจกบัตรกำนัลสำหรับซื้อสินค้าสำหรับทุกครัวเรือน มูลค่ารวม 800 ดอลลาร์สิงคโปร์(ราว 21,796 บาท)ในปีนี้ และจะแจกบัตรกำนัลเพิ่มเติมอีก 300 ดอลลาร์สิงคโปร์(หรือ 8,172 บาท)ต่อครัวเรือนในปีหน้า

         นายลี หวังว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ภายใต้การนำของนายหว่อง จะเจริญรอยตามผู้นำคนก่อนๆ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเริ่มต้นการทำงานอย่างราบรื่น แม้ว่าสถานการณ์โลกในระยะต่อไปจะมีปัญหาหลายเรื่องที่แก้ไขลำบาก เช่น การแข่งขันกันด้านต่างๆระหว่างมหาอำนาจของโลก เช่น สหรัฐฯกับจีน, การทวนกระแสโลกาภิวัฒน์,ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยคุกคามจากสงคราม เช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครนและสงครามอิสราเอล-ฮามาสในปัจจุบัน

#ผู้นำสิงคโปร์

#ปราศรัยทิ้งทวน

#วันแรงงานสากล