ผู้นำสิงคโปร์-อินโดฯให้คำมั่นสานต่อสัมพันธ์ทวิภาคี-ส่งไม้ต่อให้ผู้นำรุ่นต่อไปเข้ามาบริหารอย่างราบรื่น

          นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ และประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซีย ร่วมประชุมประจำปีอย่างไม่เป็นทางการของผู้นำสิงคโปร์-อินโดนีเซียครั้งที่ 7 และเป็นครั้งสุดท้ายของผู้นำทั้งสองก่อนที่จะก้าวลงจากตำแหน่ง ที่เมืองโบกอร์ บนเกาะชวาตะวันออก อินโดนีเซียในวันนี้ (29 เม.ย.2567) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี พร้อมทั้งหารือประเด็นเรื่องการขยายความร่วมมือด้านต่างๆระหว่างเพื่อนบ้านทั้งสอง เช่น การบริหารจัดการน่านฟ้าร่วมกัน และการส่งผู้ร้ายข้ามแดน การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นก่อนนายลีจะส่งมอบตำแหน่งให้กับรองนายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่องในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ขณะที่นายวิโดโด จะส่งมอบตำแหน่งให้กับนายปราโบโว ซูเบียนโต อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ในวันที่ 20 ต.ค.นี้ หลังชนะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 ก.พ.

          สำนักข่าวซีเอ็นเอของสิงคโปร์รายงานว่า นายลี แถลงข่าวร่วมกับนายวิโดโด หลังประชุมประจำปีในวันนี้ว่า ความร่วมมือระหว่างสิงคโปร์กับอินโดนีเซียมีก้าวหน้าอย่างดีมาตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา โดยให้คำมั่นจะสานต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ 2 ฉบับคือ ความร่วมมือด้านกลาโหมและการพัฒนาเศรษฐกิจแบบยั่งยืน เช่น พลังงานสะอาด เศรษฐกิจดิจิทัลและการจัดการท่องเที่ยวในพื้นที่ป่าชายเลนเชิงนิเวศน์

          ด้านเศรษฐกิจ นายลี กล่าวว่า การลงทุนของภาคธุรกิจสิงคโปร์ในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันมีมูลค่าสูงกว่า 74,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์(หรือ 54,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

         นายวิโดโด กล่าวว่า ได้หารือถึงข้อตกลงขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศทั้งสองให้ดำเนินไปอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง เช่น ความร่วมมือโครงการเศรษฐกิจสีเขียว การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคด้านสารสนเทศและศูนย์ข้อมูลข่าวสารในเมืองนองซา (Nongsa) บนเกาะบาตัม (Batam)

         ผู้นำทั้งสองยังได้หารือเรื่องสถานการณ์ในระดับภูมิภาคและสถานการณ์ทั่วโลก เช่น สถานการณ์ในตะวันออกกลางและความจำเป็นในการรักษาหลักการความเป็นกลางของกลุ่มอาเซียน ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มอาเซียเป็นเวทีประชุมหลักของภูมิภาคสำหรับพูดคุยเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆร่วมกัน พร้อมทั้งติดต่อความสัมพันธ์มหาอำนาจนอกภูมิภาคด้วย

#สองผู้นำอาเซียน

#ประชุมนอกรอบก่อนพ้นวาระ