สหรัฐขอใช้อู่ตะเภาตรวจผู้อพยพ/กมธ.ยกร่างกำหนวันแจงแก้รธน.2-6มิ.ย

26 พฤษภาคม 2558, 18:25น.


สรุปข่าวรอบวัน 19.35 น.



+++พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีสหรัฐอเมริกาขอใช้สนามบินอู่ตะเภาและภูเก็ตเป็นฐานก่อนบินออกลาดตระเวนสำรวจสถานการณ์ผู้อพยพในทะเลว่า ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบกลับไปว่าหากสหรัฐต้องการบินเหนือน่านน้ำไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย  โดยใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการถือเป็นภารกิจที่ดี แต่สหรัฐจะต้องเพิ่มรายละเอียดมากกว่านี้ อาทิ เส้นทางบินเพราะการปฏิบัติภารกิจนี้จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยเฉพาะกิจที่ไทยจัดตั้งขึ้น  ซึ่งการช่วยเหลือจะเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น นอกจากนี้ไทยได้ขอให้สหรัฐสนับสนุนส่งเรือร่วมปฏิบัติภารกิจของไทยซึ่งอยู่ระหว่างรอคำตอบอย่างเป็นทางการจากสหรัฐตอบกลับมาอีกครั้งหนึ่ง



+++การยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ประชุมคณะ กมธ.ยกร่าง รธน.กำหนดให้ ตัวแทนของสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. และคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เข้าชี้แจง เหตุผลที่ยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 2-6 มิถุนายน โดยพร้อมพิจารณาประเด็นคำขอแก้ไข 100 กว่าประเด็นพลเอกเลิศรัตน์ รัตนวานิช ที่ปรึกษาและโฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า จากนั้น วันที่ 8 มิถุนายน เป็นต้นไป คณะกรรมาธิการจะเหลือเวลาอีก 40 วัน เพื่อพิจารณาคำขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนวันที่ 22 มิถุนายน ถึงวันที่ 3 กรกฎาคม จะประชุมนอกสถานที่ ที่สวนสนประดิพัทธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงเวลา ก็จะต้องส่งร่างรัฐธรรมนูญ ร่างสุดท้าย ภายในวันที่ 23 กรกฎาคม และวันที่ 6 สิงหาคม จะเป็นวันลงมติร่างสุดท้าย  และคณะกรรมาธิการ จะไม่เชิญพรรคการเมือง เข้าชี้แจงแล้ว เพราะเกรงว่า กระทบกับกรอบเวลาพิจารณา แต่สามารถให้ประธานอนุกรรมาธิการแต่ละคณะไปรับฟังความเห็นหน่วยงานภายนอกได้



+++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณี ที่ รัฐบาลได้เสนอให้มีการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญว่า สิ่งที่รัฐบาลเสนอเป็นสิ่งที่กกต.มองเห็นถึงปัญหาทางเทคนิคที่ถือว่าตอบโจทย์กับการที่ กกต.เสนอ เช่นการไม่มีการเลือกตั้งแบบโอเพ่นลิสต์ จะลดเวลาการนับคะแนน เป็นการแก้ปัญหาทางเทคนิคพอสมควร เป็นนิมิตหมายที่ดีที่รัฐบาลรับฟังปัญหา เบื้องต้นหากยึดตามร่างเดิม ส.ส.เขต จาก 357 คนจะเหลือ 250 คน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อจาก 125 คน จะเพิ่มเป็น 200-220 คน นอกจากการเลือกตั้ง ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อแล้ว จะมีการเปิดโอกาสให้ประชาชนใช้สิทธิ์เลือกระบบโอเพนลิสต์ ซึ่งจะทำให้การนับคะแนนใช้เวลาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการเลือกแบบโอเพนลิสต์และการเปิดให้กลุ่มการเมืองสามารถส่งผู้สมัครลงรับการเลือกตั้งได้ ก็เชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะมีพรรคการเมืองจดทะเบียนมากขึ้น จากที่ขณะนี้มีประมาณ 70 พรรค รวมทั้งจะมีกลุ่มการเมืองมาขอจดทะเบียนและส่งผู้สมัครอีกจำนวนมาก ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าจะทำให้บัตรเลือกตั้งมีขนดใหญ่มากขึ้น การคำนวณหรือนับคะแนนก็ต้องใช้เวลา



+++นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และนักวิชาการคณะนิติราษฎร เดินทางเข้าพบอัยการศาลทหารสืบพยานโจทย์นัดแรก ในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งเรียกบุคคลให้มารายงานตัวตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยคดีนี้เริ่มสืบพยานปากแรกคือ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ซึ่งเป็นคนรับตนมาจาก ร.11 รอ. มาแจ้งความที่กองปราบปราม ส่วนอีกประเด็นหนึ่ง คือ กรณีที่ตนได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลทหารวินิจฉัยปัญหาชี้ขาดเบื้องต้น เรื่องการฟ้องคดีของอัยการศาลทหารในส่วนที่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคสช.ที่ 5/2557 นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากมีคำสั่งเรียกตนเข้ารายงานตัว 2 ครั้ง เมื่อมีคำสั่งครั้งที่ 2 ก็ต้องถือเป็นอันยกเลิกคำสั่งแรกไป sลังการสืบพยานโจทก์ นายวรเจตน์ เปิดเผยว่า วันนี้ศาลไม่ได้ชี้ขาดเรื่องดังกล่าว ให้รวมไปสั่งตอนพิพากษาจึงทำให้ตอนนี้ตนยังคงถูกฟ้อง 2 ข้อหาอยู่ ทั้งนี้ยอมว่ารู้สึกกังวลต่อกรณีดังกล่าว ก็คงจะต้องสู้ไปตามกระบวนการของ



++พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยอมรับว่า  นายเขมทัต หรือคิม เลิศลักขนากุล อายุ32ปี เป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงนายทิวะพันธุ์ เปาอินทร์ หลานชาย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เสียชีวิตหน้าบ้านพัก หลังคดีมีความกระจ่างมากขึ้นว่า นายเขมทัต น่าจะเป็นคนที่ลงมือกระทำผิดเองโดยลำพัง พบว่า มีการสั่งซื้ออาวุธปืนทางอินเตอร์เน็ต สอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหา นอกจากนี้พบความเชื่อมโยงระหว่างโทรศัพท์มือถือส่วนตัวกับอินเตอร์เน็ต



+++ตำรวจสน.หลักสอง นำตัวนายประสิทธิ์ ต่อมณี อายุ 48 ปี เจ้าของธุรกิจค้าขายเครื่องสังฆภัณฑ์  ผู้ต้องหาฆ่า เจ้าของบริษัทเครื่องมือการแพทย์ สอบสวนเพิ่มเติม ผู้ต้องหา ยืนยันรับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุจริง สาเหตุเนื่องจากเกิดความโกรธแค้นที่ซื้อเครื่องช่วยหายใจจากบริษัทดังกล่าว ไปให้แม่ แต่พอใช้กลับพบอุปกรณ์ไม่สมบูรณ์ แฃะตั้งใจไปก่อเหตุที่บริษัทดังกล่าว โดยที่ทางบ้านไม่ทราบเรื่องมาก่อน สุดท้าย ขอฝากขอโทษแม่ และฝากถึงน้องชายตนให้ช่วยดูแลแม่ด้วยจากนั้น ได้นำผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทางพนักงานและญาติของนายวรพงศ์ ผู้เสียชีวิต และคนเจ็บ ต่างพากันตะโกนด่าทอและพยายามทำร้ายนายประสิทธิ์ด้วยความโกรธแค้น  จนเจ้าหน้าที่ต้องยกเลิกการทำแผน  ล่าสุด ในคดีนี้ มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม คือ นายนคร เครือสุนทรวานิช อายุ 36 ปี ผู้จัดการร้านดังกล่าวที่ถูกยิงเข้าท้องอาการสาหัส และได้เสียชีวิตแล้วที่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค ส่วน นางทิติยา ภรรยาของผู้ตาย อาการปลอดภัย โดยหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้น ในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค.) ก่อนเที่ยงวัน ทางพนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวนายประสิทธิ์ไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรีต่อไป



++++นายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการรองเลขาธิการ กสทช. ด้านกิจการกระจายสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 พ.ค.นี้ เวลา 14.00 น. สำนักงานกสทช.ได้เชิญ บริษัท ไทยทีวี จำกัด ให้เข้ามารับทราบชี้แจงถึงข้อกฎหมายร่วมกันในกรณีที่บริษัทไทยทีวี ส่งหนังสือเพื่อขอยกเลิกใบอนุญาตและประกอบกิจการ ยืนยันว่าหากบริษัทไทยทีวีต้องการยกเลิกประกอบกิจการก็สามารถกระทำได้ แต่ต้องถูกยึดหนังสือค้ำประกันจากสถาบันทางการเงิน หรือแบงก์การันตี ซึ่งเป็นเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอล คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,634.4 ล้านบาท หากยกเลิกกิจการแล้วช่องที่ได้คืนกลับมา ทาง กสทช.วางไว้ 2 แนวทางคือ  การนำช่องไปประมูลใหม่ .เอาคลื่นที่ได้คืนมาไปอัพเกรดให้ช่องเอสดีไปเป็นระบบเอชดี



+++ที่ประชุมครม. เห็นชอบในหลักการ ร่างพ.ร.บ.ยาสูบโดยมีการกำหนดรายละเอียดของผู้จะซื้อบุหรี่ จากเดิมอายุ 18 ปี เป็น 20 ปี และห้ามบริษัท ผู้นำเข้าหรือผู้ค้ายาสูบ ทำโฆษณาอุปถัมภ์สนับสนุน กิจการสังคม (ซีเอสอาร์) แต่ยังมีข้อติดขัดยังไม่ลงตัว เนื่องจากบางเรื่องยังไม่ตรงกับมาตรฐานสากล เช่น โรงงานยาสูบต่างประเทศ จะร้องเรียนถึงคณะกรรมการที่ตรวจสอบโรงงานยาสูบนั้นเป็นคนในบอร์ดบริหารของโรงงานยาสูบอื่น และอาจไม่ได้รับความเป็นธรรม และ กฎหมายนี้จะทำให้บริษัทที่นำเข้ายาสูบจากต่างประเทศมีความคล่องตัวมากขึ้น ตามหลักเศรษฐกิจมาตรฐานโลก และจะส่งผลกระทบต่อผู้ปลูกในประเทศ จึงอาจจะต้องมีมาตรการเยียวยา และกฎกติกาบางเรื่องในร่างกฎหมายจะขัดกับองค์การอนามัยโลก นายกรัฐมนตรีจึงสั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปว่ากันในชั้นของกฤษฎีกาต่อไป



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,497.98 จุด ลดลง 10.18 จุด มูลค่าการซื้อขาย 30,006.69 ล้านบาทการปรับตัวลงอาจเป็นผลจากการไร้ปัจจัยหนุนใหม่ และแม้ตัวเลขการส่งออกของไทยจะติดลบน้อยกว่าตลาดคาด แต่ก็ยังติดลบอยู่ ทำให้กดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มองว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่แข็งแรงส่วนปัจจัยจากต่างประเทศ ยังมีความกังวลการชำระหนี้ของกรีซที่ยังไม่มีบทสรุป



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวขึ้นในวันนี้ จากแรงซื้อระลอกใหม่ จากข่าวที่ว่าทางการจีนจะอนุญาตให้ผู้จัดการสินทรัพย์ของจีนและฮ่องกงสามารถขายกองทุนแก่นักลงทุนรายย่อยระหว่างกันได้ในเร็วๆนี้  ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 257.03 จุด ที่ 28,249.86 จุด



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 8 วันทำการเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน เนื่องจากเงินเยนที่ยังคงอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้น 23.71 จุด ที่ 20,437.48 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2543



+++ไฟใหม้บ้านพักคนชราหลังหนึ่งของเอกชนในเมืองปิงติงชาน มณฑลเหอหนานของจีนเมื่อคืนวานนี้ มีคนเสียชีวิต 38 ศพและมีคนบาดเจ็บ 6 คน รวมถึงบาดเจ็บสาหัส 2 คน ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นให้การช่วยเหลืออย่าง เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุของไฟใหม้ ก่อนหน้านี้ เกิดเหตุไฟใหม้บ้านพักคนชราหลังหนึ่งในมณฑลเฮย์หลงเจียง มีคนเสียชีวิต 11 ศพ ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ของจีนระบุว่าผู้ก่อเหตุคือ หนึ่งในคนชราที่ถูกไฟคลอกเสียชีวิต

ข่าวทั้งหมด

X