*ครม.แต่งตั้งเกษมสันต์ จิณณวาโสเป็นปลัดก.ทรัพย์ฯ/แก้ปัญหาไกด้์ผิดกม.*

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมว่า นายกฯได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดูแลเรื่องภัยแล้ง ซึ่งได้รับรายงานว่าปีนี้ ฝนจะตกนอกพื้นที่ แหล่งรับน้ำ หรืออ่างเก็บน้ำ พื้นที่ทางการเกษตร และมีการประกาศพื้นที่ภัยแล้งแล้วกว่า 37 จังหวัด ใน250 อำเภอ ซึ่งนายกฯ เป็นห่วงพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกร จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการให้ข้อมูลประชาชน รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรเตรียมการในการเพาะปลูก ทั้งในเขตชลประทาน และนอกเขตชลประทานอีกด้วย พร้อมให้แนวคิด ในการตรวจสอบแผนบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้มีความสอดคล้องกับพื้นที่ ที่จะเกิดภัยแล้ง รวมถึง  ต้องการให้หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเตรียมแหล่งน้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในการเพาะปลูก

นอกจากนั้น  ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายเกษมสันต์ จิณณวาโส เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ,แต่งตั้ง นายอนันต์ ลิลา รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งนายสมชาย ชาญณรงค์กุล ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวงแต่งตั้งนายเสริมสกุล คล้ายแก้ว เป็นผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ แต่งตั้ง นายธีรวัฒน์ ภูมิจิตร กงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเสิ่นหยาง สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง

ส่วนการแก้ไขปัญหามัคคุเทศก์หรือไกด์ผิดกฏหมาย นายกรัฐมนตรี ย้ำให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปเร่งผลิตไกด์ ที่มีความรู้ ความสามารถในด้านภาษา วัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนการวิพากษ์วิจารณ์นักท่องเที่ยวบางประเทศ ที่ปฏิบัติตัวขัดต่อประเพณีไทยนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะต้องแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทาง และควรให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวในเรื่องวัฒนธรรม และประเพณีไทย รวมถึงมารยาทของไทย ซึ่งอาจทำเป็นคู่มือแจกจ่ายให้กับนักท่องเที่ยว รวมถึงจัดหาอาสาสมัครท่องเที่ยวเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจท่องเที่ยว  ซึ่งได้สั่งการให้กระทรวงวัฒนธรรมให้หารือกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฏหมาย เพื่อดำเนินการ ให้เกิดพระราชบัญญัติ ที่เกี่ยวกับศิลปิน ซึ่งในส่วนของรัฐบาลมีความต้องการที่จะดูแล บุคคลากรที่มีคุณค่ากับประเทศ เพื่อนำไปยกร่างพระราชบัญญัติ ที่เกี่ยวกับศิลปินต่อไป