ปลัดคลัง บอกข้อเสนอธปท.ไม่ทำให้แจกเงินหมื่นสะดุด ใช้เงิน ธกส.ปีงบประมาณ 68

          มีการเปิดหนังสือจากผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ลงวันที่ 22 เม.ย. 67 เพื่อเสนอเป็นความเห็นประกอบการพิจารณาโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่ครม.ให้ความเห็นชอบโดยมีเนื้อหาความเห็นบางส่วนเสนอแนะให้ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ เชื่อว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง

          นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง และนายเผ่าภูมิ โรจสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บนตึกไทยคู่ฟ้า ถึงแผนการเดินหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต

          ด้านนายลวรณ เปิดเผยภายหลังเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ถึงข้อแนะนำของธปท.ที่ให้แจกให้เฉพาะกลุ่มเปราะบาง โดยบอกว่า ผู้ว่าธปท. สามารถให้ความเห็นมาได้ ทั้งเห็นด้วยและข้อทักท้วง ซึ่งเราก็รับฟัง แต่ความเห็นของผู้ว่า ธปท.ไม่ได้ส่งผลให้โครงการนี้ต้องสะดุดลง เพราะการประชุม ครม. วานนี้ได้พิจารณาหลักการและขั้นตอนการดำเนินการไปแล้ว ซึ่งแต่ละเรื่องมีระเบียบและกฎหมายที่ต้องดำเนินการไปตามนั้น ขณะนี้ยังมีเวลาในการพิจารณารายละเอียดต่างๆหลังจากนี้ก็ต้องเริ่มดำเนินการแล้ว

          นายลวรณ ยืนยันว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะเดินหน้าต่อตามแผนเดิมตามที่ ครม.มีมติเห็นชอบ ส่วนจะมีการส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความเกี่ยวกับข้อกังวลของ ธปท.หรือไม่นั้น ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมระบุว่า การใช้งบประมาณปี 2568 จากธ.ก.ส.ตามมาตรา 28 จะสามารถดำเนินการได้ในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งถือว่ายังคงมีเวลาอยู่

          นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. ระบุว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) พร้อมที่จะทบทวนนโยบายอัตราดอกเบี้ย หากมีข้อมูลใหม่เข้ามาเพิ่มเติม และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงต่อมุมมองเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ยึดติดในเรื่องอัตราดอกเบี้ย เพียงแต่จะต้องพิจารณาผลกระทบ ความยั่งยืน และนัยต่อกรอบการทำนโยบายว่าเพียงพอหรือไม่

          แบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) บริษัทวาณิชธนกิจและผู้ให้บริการการเงินข้ามชาติจากสหรัฐ มีมุมมองเชิงลบต่อเงินตราบางสกุลในเอเชีย ขณะที่บางสกุลเงินอยู่ในระดับปานกลาง พร้อมระบุว่านี่คือจุดเริ่มต้นของยุคปั่นป่วน โดยจัดให้สกุลเงินหยวนของจีน วอนของเกาหลีใต้ ดอลลาร์ไต้หวัน บาทของไทย ด่องของเวียดนาม อยู่ในหมวดอ่อนแอ พร้อมคาดการณ์ว่า เงินบาทไทยจะอยู่ที่ระดับ 37 บาทต่อ ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้

#แจกเงินหมื่น