รอยเตอร์ส รายงานอ้างพล.ต.อ.คาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซียว่า ตำรวจเชื่อว่าค่ายอพยพในป่าลึกอย่างน้อย 2 แห่งถูกทิ้งร้างมาแล้วราว 2-3 สัปดาห์ใกล้จุดที่พบหลุมศพ 139 หลุมของผู้ต้องสงสัยเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับช่วงที่มีการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์อย่างจริงจังในประเทศไทย ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยของมาเลเซียได้เก็บกู้ศพแรกจากหลุมศพนั้น คาดว่าเสียชีวิตในช่วงเวลาเดียวกัน ศพถูกทิ้งโดยไม่มีการฝังเนื่องจากขบวนการลักลอบค้ามนุษย์รีบหลบหนีออกจากท้องที่นั้น ซึ่งอยู่ติดชายแดนของประเทศไทย
สำหรับป่าดงดิบในบริเวณภาคใต้ของประเทศไทยและภาคเหนือของมาเลเซียถือเป็นจุดพักที่สำคัญสำหรับขบวนการลักลอบค้ามนุษย์ที่ลำเลียงผู้อพยพโดยทางเรือจากประเทศเมียนมาร์ไปยังประเทศอื่นๆในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้อพยพส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมโรฮิงญาที่หลบหนีเหตุรุนแรงในรัฐยะไข่ทางตะวันตกของเมียนมาร์และปัญหาความยากจนในบังกลาเทศ
ก่อนหน้านี้ ทางการมาเลเซียระบุว่าพบหลุมศพ 139 หลุม บางหลุมถูกฝังมากกว่าหนึ่งศพ พบค่ายอพยพ 28 แห่งกระจายอยู่ตลอดแนวชายแดน 50 กิโลเมตรในรัฐเปอร์ลิส ทางภาคเหนือของมาเลเซีย การค้นพบหลุมศพครั้งนี้มีขึ้นหลังมีการค้นพบหลุมศพตื้นๆหลายแห่งในชายแดนของประเทศไทยเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม เป็นผลให้รัฐบาลไทยทำการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง เรือหลายลำที่บรรทุกผู้อพยพหลายพันคนจึงถูกลอยแพอยู่ในอ่าวเบงกอลและทะเลอันดามัน/14.40 น.
ผู้สื่อข่าว : เสริม พัชรานุ